


· ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงทำระดับต่ำสุดรอบ 22 เดือน เมื่อเทียบกับดอลลาร์หลังจากที่ดัชนีชี้วัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจของเยอรมนีอ่อนตัวลงเกินคาด อันเป็นผลมาจากความตึงเครียดทางการค้าที่ส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมที่เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจยุโรป จึงยิ่งตอกย้ำถึงความผกผันกันระหว่างข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯและยูโรโซน
ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง 0.54% ที่ 1.1164 ดอลลาร์/ยูโร ซึ่งถือเป็นระดับปิดต่ำสุดตั้งแต่ต้นเดือนมี.ค.
ในทางตรงข้ามดอลลาร์ยังคงแข็งค่าขึ้นเพราะได้รับอานิสงส์จากข้อมูลที่อยู่อาศัยที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ ที่ยังบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯยังมีแนวโน้มที่ดี โดยดัชนีดอลลาร์ปรับขึ้น 0.35% ที่ 97.98 จุด ซึ่งเป็นระดับแข็งค่ามากที่สุดตั้งแต่เดือนมิ.ย. ปี 2017
กลุ่มนักลงทุนรอคอยการประกาศจีดีพีคืนพรุ่งนี้ ซึ่งถือเป็นการเปิดเผยประมาณการณ์จีดีพีครั้งแรกของ Q1/2019
· โฆษกประจำทำเนียบขาวระบุว่า นายสเตฟเฟน มอเรย์ ยังคงถูกพิจารณาให้รับตำแหน่งคณะกรรมการเฟดโดยนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ อยู่ แม้ว่านายมอเรย์ยังถูกวิพากษ์วิจารย์อย่างหนักจากพรรคเดโมแครตเกี่ยวกับความคิดในเชิงเหยียดเพศของเขาก็ตาม
ทั้งนี้ หากนายมอเรย์ได้รับตำแหน่งคณะกรรมการเฟด เขามีแนวคิดจะผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระบบการกำหนดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งเขามองว่าเป็นศัตรูตัวสำคัญของเศรษฐกิจสหรัฐฯ
· สถาบันวิจัยเศรษฐกิจและสังคมแห่งอังกฤษ คาดว่า ธนาคารกลางอังกฤษหรือบีโออี มีแนวโน้มจะคงดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงเดือนส.ค. ปี 2020 เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว และมีความไม่แน่นอนมาอย่างยาวนานสำหรับกรณี Brexit
· รายงานจาก Reuters ระบุว่า บีโอเจถูกคาดว่าจะยังคงนโยบายการเงินต่อไป โดยเงินเฟ้อจะยังอยู่ต่ำกว่า 2% ในช่วงไตรมาสแรก ท่ามกลางสัญญาณกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะยังคงดำเนินต่อไป
· ราคาน้ำมันดิบทรงตัวใกล้ระดับสูงุสดในรอบ 6 เดือน หลังข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มสูงขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. ปี 2017 ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการตึงตัวของอุปทานซึ่งเป็นผลมาจากการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปก รวมทั้งการคว่ำบาตรเวเนซูเวล่าและอิหร่านของสหรัฐฯ
โดยน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลง 41 เซนต์ ที่ระดับ 65.89 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ Brent เพิ่มสูงขึ้น 6 เซนต์ ที่ะรดับ 74.57 เหรียญ/บาร์เรล
· สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) กล่าวว่า สต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 5.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นที่ระดับ 1.3 ล้านบาร์เรล
