· ราคาทองคำทรงตัวโดยขยับขึ้นเล็กน้อยหลังจากที่ปรับตัวลงไปทำระดับต่ำสุดรอบเกือบ 4 เดือน ท่ามกลางแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์และตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ยังอยู่ในทิศทางแข็งแกร่ง
· ราคาทองคำตลาดโลกปรับขึ้น 0.2% ที่ 1,274.24 เหรียญ หลังไปทำ Low ตั้งแต่ 26 ธ.ค. ที่ 1,265.9 เหรียญ ขณะที่สัญญาทองคำส่งมอบเดือนมิ.ย. ปิดขึ้น 6.2 เหรียญ ที่ 1,279.4 เหรียญ
· ผู้อำนวยการฝ่ายการซื้อขายจาก High Ridge Futures กล่าวว่า ราคาทองคำปรับขึ้นเมื่อวานเป็นการรีบาวน์ตามเทคนิค โดยภาพรวมตลาดยังคงมีแรงเทขายอย่างหนักอยู่จากวันก่อน ขณะที่เมื่อคืนนี้หุ้นสหรัฐฯอ่อนตัวลงเล็กน้อยหลังไปทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แต่ดอลลาร์ก็ยังคงแข็งค่าใกล้ระดับสูงสุดรอบ 22 เดือน จึงยังเป็นปัจจัยกดดันทอง โดยปัจจัยหลักที่กดดันทองคำคือการแข็งค่าของดอลลาร์และความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงมากกว่าสินทรัพย์ปลอดภัย จึงทำให้เราเห็นทองคำลงมาแล้วกว่า 5% นับจากระดับสูงสุดที่ทำไว้ในช่วงก.พ. ปี 2019
· นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจาก Reuters มองว่า มีโอกาสเห็นราคาทองคำทรงตัวเหนือ 1,264 เหรียญ และอาจกลับมาบริเวณแนวต้าน 1,284 เหรียญได้
· กลุ่มนักลงทุนกำลังรอคอยการประกาศข้อมูลจีดีพีของสหรัฐฯที่จะเกิดขึ้นช่วงปลายสัปดาห์นี้ โดยเฟดแอนแลนต้าเปิดเผยโมเดลจีดีพีที่คาดว่าจะขยายตัวได้ระหว่าง 2.2% และ 3.4% สูงกว่าที่บรรดานักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเติบโตได้ที่ 2.1%
· ผลสะท้อนความเชื่อมั่นในตลาดทองคำ เห็นได้จากกองทุน SPDR โดยที่กองทุน SPDR ยังคงมีการเทขายทองทำระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 23 ต.ค. โดยล่าสุด กองทุน SPDR เมื่อวานนี้ทำการเทขายทองคำอีก 1.76 ตัน โดยปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 747.87 ตัน และภาพรวม SPDR ปีนี้ขายไปแล้วประมาณ 5%
· นักวิเคราะห์จาก Standard Chartered ระบุว่า ภาพขาลงของทองคำยังเป็นไปอย่างจำกัด อันเนื่องจากบรรดาธนาคารกลางมีการเข้าซื้อทองคำเพิ่มขึ้นจึงยังมีสัญญาณความต้องการในตลาดที่ฟื้นตัวได้อยู่
· ราคาซิลเวอร์ปิด +0.7% ที่ 14.92 เหรียญ หลังจากที่ลงไปทำระดับต่ำสุดตั้งแต่ 26 ธ.ค. ที่ 14.71 เหรียญ ทางด้านราคาแพลทินัมปิด -0.1% ที่ 883.97 เหรียญ ทางด้านราคาพลาเดียมปิด +1.3% ที่ 1,408.96 เหรียญ