โดยราคาทองคำย่อตัวลงเล็กน้อยประมาณ 0.1% บริเวณ 1,284.31 เหรียญ หลังทำระดับสูงสุดของวันที่ 16 เม.ย. ที่ 1,288.59 เหรียญในช่วงตลาดก่อนหน้า
ขณะที่ราคาสัญญาทองคำปรับลดลง 0.2% บริเวณ 1,287.70 เหรียญ
· นักวิเคราะห์จาก IG Markets ระบุว่า การประกาศตัวเลข GDP ของสหรัฐฯเมื่อคืนวันศุกร์ ทำให้ตลาดเกิดความกังวลเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจและความแข็งแกร่งของกลุ่มผู้บริโภค จึงทำให้มีกระแสคาดการณ์ว่าเฟดอาจพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง
ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นด้วยอัตราที่มากที่สุดในรอบ 7 สัปดาห์เมื่อวันศุกร์ หลังค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง เนื่องจากนักลงทุนไม่ได้ให้ความสนใจไปยังตัวเลขเศรษฐกิจที่สดใส แต่กลับให้ความสนใจไปยังจุดบอดของเศรษฐกิจมากกว่า
· ข้อมูล GDP สหรัฐฯแสดงให้เห็นเศรษฐกิจสหรัฐฯในไตรมาสที่ 1 สามารถขยายตัวได้ 3.2% ซึ่งเป็นผลพวงระยะสั้นๆจากยอดขาดดุลการค้าที่ยังขยายตัวมากขึ้นเรื่อยๆ และการกักตุนสินค้ามากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2015 เนื่องจากผลกระทบของความขัดแย้งทางการค้า
ในขณะที่ ดัชนี PCE price index กลับขยายตัวได้เพียง 1.3% ในไตรมาสที่ 1 เมื่อเทียบกับ 1.8% ในไตรมาสก่อนหน้า ผลสำรวจโดย Reuters จึงคาดว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยอาจเกิดขึ้นอย่างเร็วที่สุดภายในปี 2020
· นักวิเคราะห์จาก OANDA คาดว่า เฟดน่าจะรอจนถึงช่วงฤดูร้อน ก่อนที่จะเริ่มส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย แต่ถ้าเฟดมีความกังวลอย่างมากกับอัตราเงินเฟ้อที่ชะลอตัว ก็มีโอกาสที่จะเห็นเฟดปรับลดดอกเบี้ยในช่วงปลายปีนี้
· ทางกองทุน SPDR ยังคงปรับลดการถือครองทองคำลงอย่างต่อเนื่องกว่า 3% ตลอดเดือนนี้ จึงถือเป็นอีกปัจจัยที่กดดันความต้องการในทองคำ โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทางกองทุนได้ปรับลดการถือครองลงอีก 0.16% สู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ต.ค. ที่ 746.69 ตัน
· ผลสำรวจจาก Kitco สะท้อนให้เห็นว่า กลุ่มนักเก็งกำไรส่วนใหญ่ 44% และผู้เชี่ยวชาญในตลาดทองกว่า 55% มองว่ามีโอกาสเห็นทองคำปรับตัวขึ้นได้ต่อในสัปดาห์นี้ ขณะที่รองลงมาของทั้งสองฝ่ายมองว่าทองคำจะปรับตัวลงต่อ และอัตราที่น้อยที่สุดมองว่าราคาจะยังเคลื่อนไหว Sideways
· นักวิเคราะห์การตลาดอาวุโสจาก Price Futures Group กล่าวว่า ราคาทองคำน่าจะมีการรีบาวน์ได้ ท่ามกลางดอลลาร์ที่อ่อนค่าจากภาวะ Overprice ที่ดูจะช่วยหนุนราคาทองคำบางส่วนได้
· ผู้อำนวยการฝ่ายป้องกันความเสี่ยงจาก Walsh Trading กล่าวว่า แนวโน้มทองคำดูจะยังผันผวนปรับขึ้นได้ หลังจากที่ราคามีการหลุดลงมาทดสอบแถวเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน บริเวณ 1,267 – 1,268 เหรียญ ในทางเทคนิค หากตลาดสามารถ Break เหนือ 1,288 เหรียญได้ ก็มีโอกาสเห็นทองคำเป็นขาขึ้น ขณะที่สถานะ Long Position จำนวนมากมีการถูกปิดออกจากตลาด นั่นหมายความถึงเราอาจมีโอกาสเห็นราคาถูกเข้าซื้ออีกครั้ง และนั่นจะเป็นปัจจัยที่หนุนตลาดทอง
· หัวหน้าฝ่ายการซื้อขายจาก MKS กล่าวว่า การเพิ่มขึ้นของการเปิดสถานะ Short หมายถึงความเป็นไปได้ที่เราจะเห็นการทำ Short Covering จึงทำให้เราเห็นการเข้าซื้อเพื่อปิดสถานะดังกล่าว โดยที่ราคาทรงตัวได้ดีเหนือ 1,270 เหรียญ แม้ว่ารายงานจีดีพีสหรัฐฯไตรมาสแรกของปีจะออกมาอย่างแข็งแกร่งในคืนวันศุกร์
· นักวิเคราะห์ทางเทคนิคอาวุโสจาก Kitco กล่าวว่า ราคาระยะสั้นๆยังคงเป็นทิศทางขาลง ดังนั้น จึงมีโอกาสเห็นราคาเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideways ที่ปรับตัวลงได้ ขณะที่นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์อาวุโสจาก RJO Futures ก็ยังมองทองคำเป็นขาลงเช่นกัน ท่ามกลางสภาวะความแข็งแกร่งของตลาดหุ้น ที่ดูจะส่งผลกดดันราคาทองคำอยู่
· นักวิเคราะห์จาก Trading View ระบุว่า ภาพรวมราคาทองคำยังคงมีการปรับฐานอยู่ระหว่าง 2 ช่วงระดับราคาสำคัญตามกราฟ ขณะเดียวกันเราสามารถพิจารณาเห็นการเคลื่อนไหวขาขึ้นของทองคำได้อยู่ เว้นแต่ว่าจะเห็นการฟื้นตัวของตลาดหุ้นมาเข้ากดดัน
สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ คือการที่ Cash-Flow มีการไหลออกจากตลาดทองคำเข้าสู่ตลาดหุ้น แม้ว่าจะมีปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นค่อนข้างเบามาก และภาพทางเทคนิคของทองคำโดยส่วนใหญ่เป็นลักษณะของการปรับฐานในรูปแบบที่มีการอ่อนตัวลงมาแถวระดับเส้นค่าเฉลี่ย Fibonacci 38.2% เมื่อเทียบกับดัชนีS&P500 ที่ดูจะเห็นราคาเคลื่อนไหวแกว่งตัวขึ้น
แต่ภาพรวมยังคงมีปริมาณการซื้อขายในตลาดที่ค่อนข้างเบาบางเช่นนี้ ก็อาจเป็นการขึ้นแบบหลอกๆได้ หรือ Fake-Rally ดังกราฟที่ปรากฏ
· ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นและเหมือนจะดีดกลับมาแถว 1,290 - 1,294 เหรียญได้ โดยกราฟ 4 ชม. สะท้อนว่า เส้นค่าเฉลี่ย MA-200 วัน จะมีระดับราคาอยู่ที่ 1,290.95 เหรียญ หาก Breakout ขึ้นมาได้มีโอกาสไปแถว 1,296 เหรียญ ขณะที่ MA100 จะอยู่ระดับ 1,285.4 เหรียญ ซึ่งหากยืนได้อย่างมีเสถียรภาพก็จะเห็นราคาอยู่แถว 1,290 เหรียญ
สำหรับภาพรายวันเส้นค่าเฉลี่ย MA-100 อยู่ระดับ 1,280.7 เหรียญ หากภาพใหญ่สามารถ Breakout เหนือระดับนี้ก็มีโอกาสไปแถว 1,290 - 1,296 เหรียญ ซึ่งในทางเทคนิคจังหวะที่ดีที่ควรเปิดขายก่อนจะอยู่บริเวณ 1,296 เหรียญ และเป้าหมายทำกำไรที่ 1,280 เหรียญ
อย่างไรก็ดี หากทองคำสามารถไปต่อได้ ก็จะมีโอกาสเห็นทองคำ Breakout ทะลุขึ้นไปเหนือ 1,305 เหรียญ ก็มีโอกาสเห็น 1,318 เหรียญ
· ส่วนราคาซิลเวอร์ปรับลดลง 0.2% บริเวณ 15.03 เหรียญ ขณะที่ราคาแพลทินั่มปรับสูงขึ้น 0.6% บริเวณ 889.75 เหรียญ
· ราคาพลาเดียมปรับลดลง 0.6% แถว 1,455.51 เหรียญ หลังทำระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนที่ 1,465.01 เหรียญในช่วงก่อนหน้า
Thai
Eng