• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 30 เมษายน 2562

    30 เมษายน 2562 | Economic News



· ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ แต่ภาพรวมก็ยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดรอบ 23 เดือน ท่ามกลางเหล่าเทรดเดอร์ที่รอคอยข้อมูลเศรษฐกิจเพิ่มเติมเพื่อรอตัดสินใจว่าจะทำสถานะ Long ในค่าเงินดอลลาร์มากหรือน้อยเพียงใด



ทั้งนี้ ค่าเงินส่วนใหญ่ยังคงมีการเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ขณะที่ปริมาณการซื้อขายในตลาดค่อนข้างเบาบางจากการที่ตลาดญี่ปุ่นเริ่มปิดทำการในช่วง Golden Week ทางด้านจีนจะหยุดในวันแรงงานระหว่างวันพุธ-ศุกร์นี้ ขณะทีสัปดาห์นี้จะมีการประชุมเฟด, การเจรจา Brexit และการประกาศตัวเลขสำคัญต่างๆทั่วโลก โดยเฉพาะการจ้างงานภาคการเกษตรของสหรัฐฯที่ดูจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ตลาดค่าเงินผันผวน ซึ่งจ้างงานสหรัฐฯในคืนวันศุกร์ ตลาดยังมีมุมมองว่าจะปรับตัวขึ้นได้อย่างแข็งแกร่งในเดือนเม.ย. แถว 185,000 ราย และอัตราว่างงานที่ 3.8%



นอกจากนี้ ยังต้องติดตามผลสำรวจภาคอุตสาหกรรมของยุโรปและจีนในช่วงปลายสัปดาห์นี้ ควบคู่กับประมาณการจีดีพีครั้งแรกของทางยุโรป



ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.16% ที่ 97.85 จุด หลังจากที่ไปแตะ 98.33 จุด ซึ่งเป็นจุดสูงสุดตั้งแต่ 17 พ.ค. โดยดัชนีดอลลาร์ยังคงล้มเหลวในการแข็งค่าต่อเมื่อ แม้ว่าข้อมูลยอดค่าใช้จ่ายผู้บริโภคจะออกมาแข็งแกร่ง 0.9% ในเดือนมี.ค. ทำระดับรายเดือนสูงสุดในรอบกว่า 9 ปีครึ่ง



ค่าเงินยูโรปรับขึ้น 0.32% ที่ 1.1184 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่ค่าเงินเยนปรับอ่อนค่า 0.12% ที่ 111.71 เยน/ดอลลาร์



· เหล่าเทรดเดอร์ให้ความสำคัญไปยังแนวโน้มทางเศรษฐกิจโลกจากเฟด รวมทั้งแนวทางการดำเนินนโยบายในการประชุมสัปดาห์นี้ ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่า จะเห็นสมาชิกเฟดเปลี่ยนท่าทีในการส่งสัญญาณในเดือนที่ผ่านมา ซึ่งพวกเขาน่าจะมีแนวโน้มไม่ขึ้นดอกเบี้ยใดๆในปีนี้

· การประชุมเฟดสัปดาห์นี้ เป็นที่คาดการณ์ว่าเฟดจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 2.25 – 2.50% เนื่องจากเศรษฐกิจเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 1 แม้จะเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง แต่ก็ถูกกดดันด้วยภาพรวมของอัตราเงินเฟ้อที่ไม่ค่อยสดใสนัก

บรรดาสมาชิกเฟดในช่วงที่ผ่านมาต่างไม่มีการส่งสัญญาณเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในนโยบายการเงินใดๆ ขณะที่ตลาดยังคงยึดมั่นกับถ้อยแถลงของประธานเฟดที่กล่าวว่า เฟดจะ “อดทน” ต่อการขึ้นดอกเบี้ย เพื่อจับตาทิศทางของเศรษฐกิจ



· เครื่องมือ FedWatch ของ CME Group คาดโอกาสที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์นี้ไว้ที่ 97%



· นักวิเคราะห์จาก JP Morgan คาดการณ์ว่า เฟดจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงมุมมองต่อเศรษฐกิจในการประชุมครั้งนี้มากนัก เมื่อเทียบกับมุมมองเมื่อเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา เนื่องจาก แม้เศรษฐกิจจะเติบโตได้แข็งแกร่ง แต่การชะลอตัวของเงินเฟ้อยังคงต้องถูกจับตาต่อไปเสียก่อน

· ผลการสำรวจแสดงให้เห็นว่า การเติบโตภาคอุตสาหกรรมของจีนประจำเดือนเม.ย.ชะลอตัวลงอย่างไม่คาดคิด ชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจยังคงพยายามที่จะฟื้นตัว แม้จะมีมาตรการสนับสนุนเศรษฐกิจมากมายก็ตาม


โดยดัชนี PMI ประจำเดือนเม.ย.ปรับตัวลดลงที่ะรดับ 50.1 จากเดิมที่ระดับ 50.5 ในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา



ทั้งนี้ เหล่านักวิเคราะห์จาก Reuters คาดการณ์ว่า ดัชนี PMI อาจจะไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดือนก่อนหน้า ซึ่งบ่งชี้ว่ายังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง แบบค่อยเป็นค่อยไป



· ราคาน้ำมันดิบทรงตัว หลังจากที่ร่วงลงในคืนวันศุกร์ จากข่าวที่ว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีการเรียกร้องให้กลุ่มโอเปกมีการปรับเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อลดผลกระทบจากการที่สหรัฐฯคว่ำบาตรอิหร่าน


น้ำมันดิบ WTI ปิดปรับขึ้น 20 เซนต์ ที่ 63.5 เหรียญ/บาร์เรล ทางด้านน้ำมันดิบ Brent ปิดปรับลง 11 เซนต์ ที่ 72.04 เหรียญ/บาร์เรล

· รายงานจาก IMF ล่าสุด ระบุว่า ผลกระทบจากการคว่ำบาตรของสหรัฐฯต่อเศรษฐกิจอิหร่านกำลังทำให้อิหร่านประสบปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัวจากกิจกรรมในภูมิภาค และคาดว่าภาคบริการและสินค้าจะหดตัวสู่ 1.7% หลังจากที่ปีที่แล้วอ่อนตัวไป 1.1%

นอกจากนี้ในรายงานของ IMF ยังระบุว่า เศรษฐกิจอิหร่านจะเผชิญกับการดิ่งตัวเชิงลึก พร้อมปรับลดคาดการณ์การขยายตัวลงไปเกือบ 10% ในช่วงระหว่างปี 2018-2020 โดยมองว่าปีนี้จะขยายตัวได้เพียง 6% หลังจากที่หดตัวไป 3.9% ในปีที่แล้ว


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com