· ตลาดหุ้นสหรัฐฯคืนวันศุกร์ปิดปรับขึ้นหลังจากที่ร่วงลงต่อเนื่องในช่วง 2 วันทำการก่อนหน้า หลังจากที่ข้อมูลจ้างงานเดือนเม.ย. ออกมาแข็งแกร่งเกินคาด โดยดาวโจนส์ปิด +197.16 จุด ที่ 26,504.95 จุด ขณะที่ S&P500 ปิดปรับขึ้นเกือบ 1% ที่ 2,945.64 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดตั้งแต่ 1 เม.ย. และดัชนี Nasdaq ปิด +1.6% ที่ 8,164 จุด และถือเป็นระดับปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์
· เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดปรับขึ้นได้หลังจากที่ช่วงต้นตลาดอ่อนตัวลงไปจากประเด็น Trade War ที่สหรัฐฯอาจเดินหน้าขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน โดยดัชนีดาวโจนส์ช่วงแรกร่วงลงไปกว่า 471 จุด ก่อนจะกลับมาปิด +66.47 จุด ที่ 26,438.48 จุด ขณะที่ดัชนึ S&P500 ช่วงแรงทรุดไปกว่า 1.2% และปิด -0.4% ที่ 2,932.47 จุด สำหรับ Nasdaq ช่วงต้นตลาดดิ่งลงไปกว่า 2.2% ก่อนจะปิด -0.5% ที่ 8,123.29 จุด
ตลาดปรับตัวขึ้นมาอีกครั้งหลังจากที่ทาง CNBC เผยรายงานที่ว่า ตัวแทนการค้าจากจีนจะมีการเดินทางมายังสหรัฐฯเพื่อหาทางเจรจาต่อในสัปดาห์นี้ โดยการที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ข่มขู่จะทำการปรับขึ้นภาษีรอบใหม่มาจากการที่เขาเล็งเห็นว่าการเจรจายังมีความคืบหน้าที่ค่อนข้างล่าช้ามาก ขณะที่ในทวิตเตอร์ล่าสุดวานนี้ กล่าวอ้างถึงการที่สหรัฐฯเผชิญกับการสูญเสียมูลค่า 6-8 แสนล้านเหรียญต่อปีจากการค้า ขณะที่จีนสูญเสียเพียง 5 แสนล้านเหรียญ และเขาก็ไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้นอีก
· ตลาดหุ้นยุโรปเผชิญแรงเทขายหลังนายทรัมป์ต้องการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน โดยดัชนี DAX ของเยอรมนีและ CAC ของฝรั่งเศสปิดร่วงลงไปกว่า 1% ท่ามกลางตลาดหุ้นอังกฤษที่ปิดทำการในวันหยุดประจำชาติเมื่อวานนี้
· ตลาดหุ้นเอเชียเปิดผสมผสานกันในเช้านี้ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าครั้งใหม่ระหว่างสหรัฐฯและจีน โดยดัชนีนิกเกอิเปิด -0.89% หลังจากที่กลับมาเปิดทำการวันนี้เป็นวันแรกหลังจากที่หยุดยาวที่ผ่านมา ทางด้านดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้เปิด -1.33%
สำหรับเมื่อวานนี้ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลงไปกว่า 5% ตามข่าวตึงเครียดทางการค้าของสหรัฐฯและจีน โดยดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิด -5.58% ที่ 2,906.46 จุด ดัชนีเสิ่นเจิ้น คอมโพเน้นท์ปิด -7.56% ที่ 8,943.52 จุดและเสิ่นเจิ้น คอมโพสิตปิด -7.381% ที่ 1,515.8 จุด รวมทั้งดัชนี CSI300 ปิด -5.84% ที่ 3,684.62 จุด ขณะที่ฮั่งเส็งปิด -2.9% ที่ 29,209.82 จุด
· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทวันนี้ไว้ระหว่าง 31.90-32.15 บาท/ดอลลาร์ โดยยังต้องติดตามปัจจัยการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนต่อไป
- ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ ระบุว่า แม้ว่ามาตรการลดหย่อนภาษีเงินได้จากค่าซื้อบ้านของรัฐบาลจะช่วยลดต้นทุนของผู้เสียภาษีที่ซื้อบ้านหลังแรก แต่ผลบวกที่มีต่อการกระตุ้นตลาดที่อยู่อาศัยโดยรวมอาจมีไม่มาก แม้มาตรการในปีนี้จะคล้ายคลึงกับมาตรการที่ออกมาในปี 2554 และ 2558 แต่ผลบวกต่อผู้เสียภาษีที่ซื้อบ้านหลังแรกอาจมีน้อยกว่าเนื่องจากเม็ดเงินที่ได้จากการประหยัดภาษีเงินได้ของมาตรการในปี 2562 มีน้อยกว่ามาตรการในปี 2554 และ 2558และระยะเวลาที่มีผลบังคับใช้ยังสั้นกว่า โดยในปี 2562 มีระยะเวลาเพียง 8 เดือน ซึ่งสั้นกว่าในปี 2554 และ 2558 ที่มีระยะเวลาถึง 19 เดือน และ 14 เดือน ตามลำดับ
- อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า การนำส่งข้อมูลดอกเบี้ยเงินฝาก กรมสรรพากรจะรับรู้แค่ข้อมูลดอกเบี้ยที่ทางธนาคารเป็นผู้จ่ายให้กับลูกค้า แต่จะไม่ได้รับทราบส่วนข้อมูลอื่นๆของลูกค้าธนาคาร ขอให้ทุกคนมั่นใจได้และไม่ต้องตื่นตระหนกในเรื่องนี้ด้านประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า การกำหนดให้ธนาคารผู้จ่ายดอกเบี้ยนำส่งข้อมูลดอกเบี้ยทุกบัญชีต่อกรมสรรพากรจะเป็นประโยชน์ต่อลูกค้าบัญชีเงินฝากส่วนใหญ่ของประเทศ