· เมื่อวานนี้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น 0.2% ที่ 1,281.76 เหรียญ ขณะที่สัญญาทองคำส่งมอบเดือนมิ.ย. ปิด +0.2% ที่ 1,283.8 เหรียญ ท่ามกลางการร่วงลงของตลาดหุ้นทั่วโลก ตอบรับกับรายงานล่าสุดที่ว่าทีมบริหารของนายทรัมป์จะทำการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่ม แต่ภาพรวมทองคำก็ปรับขึ้นได้จำกัดจากการแข็งค่าของดอลลาร์
· นักกลยุทธ์ฝ่ายการตลาดอาวุโสจาด RJO Futures กล่าวว่า ในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาจะเห็นถึง 2 เหตุการณ์สำคัญทางการเมือง โดยหนึ่งในนั้นคือข่าวที่ว่า สหรัฐฯส่งเรือบรรทุกเครื่องบินและเครื่องบินทิ้งระเบิดหลายลำไปอิหร่าน และอีกหนึ่งข่าวคือเรื่องการที่สหรัฐฯจะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่ม ซึ่งทั้งสองประเด็นถือว่าเป็นภาวะความเสี่ยงทางการเมืองที่อาจทำให้ทองคำปรับตัวขึ้นได้ แต่ดอลลาร์ก็ปรับแข็งค่าขึ้นตอบรับกับข่าว Trade Warจึงทำให้ทองคำปรับขึ้นอย่างจำกัด
· นายทรัมป์ ระบุถึงเป้าหมายที่จะขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 2 แสนล้านเหรียญ เป็น 3.25 แสนล้านเหรียญ หรือเพิ่มขึ้น 25% ครอบคลุมสินค้านำเข้าทั้งหมดจากจีน
· ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลง ขณะที่ราคาน้ำมันดิ่งลงหลังนายทรัมป์ประกาศดังกล่าว จึงมีแรงเข้าซื้อทองคำบ้างบางส่วน นอกจากนี้ ทองคำยังได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่า นายจอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ กล่าวว่า การที่สหรัฐฯส่งเรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส อับราฮัม ลินคอล์น ไปยังทะเลเมดิเตอร์เรเนียนว่า เป็นการตอบโต้และเตือนอิหร่านที่กำลังก่อปัญหามากขึ้นเรื่อยๆ โดยที่สหรัฐฯไม่ได้กำลังพยายามทำสงครามกับอิหร่าน แต่ต้องเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่สำหรับตอบโต้การโจมตีทุกอย่าง
· หัวหน้านักวิเคราะห์จาก U.S. Global Investors กล่าวว่า นักลงทุนส่วนใหญ่ค่อนข้างพึงพอใจต่อสภาวะของตลาดหุ้นในขณะนี้ และแรงเทขายล่าสุดที่เกิดขึ้นทำให้นักลงทุนต้องการปรับพอร์ตการลงทุน จึงเห็นหลายคนเริ่มกลับมาเพิ่มการถือครองในทองคำมากขึ้น
· ปัญหา Trade War ระหว่างสหรัฐฯและจีนได้กดดันราคาพลาเดียม โดยปิด -2.7% ที่ 1,334.01 เหรียญ ขณะที่ซิลเวอร์ปิด -0.2% ที่ 14.90 เหรียญ ขณะที่ราคาแพลทินัมปิด +0.4% ที่ 872 เหรียญ