· ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นไปทำระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 สัปดาห์ ท่ามกลางความกังวลครั้งใหม่เกี่ยวกับประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ที่มีความเป็นไปได้ที่จะกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก จึงทำให้นักลงทุนลดการถือครองสินทรัพย์เสี่ยง และกระตุ้นการเข้าถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย
· ราคาทองคำตลาดโลกขยับขึ้น 0.4% ที่ 1,289.09 เหรียญ หลังไปทำระดับสูงสุดตั้งแต่ 15 เม.ย. ที่ 1,290.42 เหรียญในช่วงต้นตลาด ขณะที่สัญญาทองคำส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดปรับขึ้น 0.4% ที่ 1,290.3 เหรียญ
· นักวิเคราะห์บางส่วนคาดว่าราคาทองคำที่ปรับตัวสูงขึ้นยังเป็นไปอย่างจำกัด ท่ามกลางตลาดหุ้นที่ดูจะอ่อนตัวเป็นการชั่วคราว
· หัวหน้านักวิเคราะห์จาก ActivTrades กล่าวว่า ท่าทีที่นายทรัมป์ข่มขู่จะทำการขึ้นภาษีสินค้าของจีนก็ดูจะกระทบต่อตลาดหุ้นมากกว่าตลาดทองคำ โดยทองคำก็ยังคงยืนได้เหนือระดับแนวรับ และดูเหมือนนักลงทุนจะยังไม่ได้ทำอะไรกับสถานะในตลาดทองคำมากนัก
· นักวิเคราะห์ฝ่ายการตลาดจาก Forex.com กล่าวว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวลงอีกครั้งก็ดูเหมือนจะเป็นข่าวดีสำหรับทองคำด้วยเช่นกัน โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดรอบ 5 สัปดาห์ จากความกังวลต่อการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน
· ในวันนี้ นายหลิว เฮ่อ รองนายกรัฐมนตรีของจีนจะเดินทางเข้าสู่การเจรจาต่อกับทางสหรัฐฯ ท่ามกลางนโยบายการขึ้นภาษีจีนจะส่งผลในวันศุกร์นี้ หากการบรรลุข้อตกลงใดๆร่วมกันยังไม่เกิดขึ้นตามมา
· นักวิเคราะห์จาก Wing Fung กล่าวว่า หลังจากที่ราคากลับมายืนเหนือ 1,280 เหรียญได้ ก็ดูเหมือนมีโอกาสจะเห็นทองคำปรับขึ้นไปแถวแนวต้าน 1,300 เหรียญได้ แต่ก็ดูจะยังยากลำบากที่จะ Break เหนือได้
· นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจากรอยเตอร์ส มองว่า ราคาทองคำอาจทดสอบแนวต้าน 1,291 เหรียญ หากผ่านไปได้ก็มีโอกาสเห็นทองคำขึ้นไปต่อแถวแนวต้านถัดไปที่ 1,299 เหรียญ
· นักวิเคราะห์และเทรดเดอร์บางส่วนมองว่า การเข้าซื้อทองคำของอินเดียจะมาช่วยสนับสนุนความต้องการทองคำได้ แม้ว่าในปีนี้ผู้บริโภคทองคำรายใหญ่ของจีนจะมีการเข้าซื้อที่ลดลง
· อินเดียถูกคาดว่าจะมีการเข้าซื้อทองคำไม่น้อยกว่า 10% ท่ามกลางเทศกาลแห่งการเริ่มต้นสิ่งดีๆของชาวฮินดู (Akshaya Tritiya) ที่ดูจะมีความต้องการมากกว่าปีที่แล้วและนั่นจะเป็นปัจจัยหนุนความต้องการทองคำในเอเชีย
· กองทุน SPDR เมื่อวานนี้ ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 739.94 ตัน