· ตลาดหุ้นสหรัฐฯยังคงล้มเหลวในการรีบาวน์กลับจากแรงเทขายอย่างหนักได้ในสัปดาห์นี้ ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่มีท่าทีระมัดระวังมากขึ้นเกี่ยวกับข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน โดยดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับขึ้นได้เล็กน้อย 2.24 จุด ที่ 25,967.33 จุด ขณะที่ S&P500 ปิด -0.16% ที่ 2,879.42 จุด และดัชนี Nasdaq ปิด -0.26% ที่ 7,943.32 จุด โดยระหว่างวันดาวโจนส์ปรับลงไปกว่า 75 จุด ก่อนจะดีดกลับได้กว่า 153 จุด ซึ่งตลาดหุ้นสหรัฐฯยังผันผวนอย่างมาก โดยช่วง 2 วันก่อนหน้าดาวโจนส์ดิ่งไปมากกว่า 540 จุด
อย่างไรก็ดี การปิดปรับขึ้นของดาวโจนส์เมื่อคืนนี้ มาจากการที่ นางซาร่า แซนเดอร์ส เลขาธิการทำเนียบขาว ยืนยันว่าจีนจะเดินทางมายังสหรัฐฯในสัปดาห์นี้เพื่อผลักดันให้เกิดข้อตกลงทางการค้า
· ตลาดหุ้นเอเชียเปิดผสมผสานกันท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่มุ่งหน้ารอคอยการเจรจาสหรัฐฯและจีน โดยที่ดัชนีนิกเกอิเปิด -0.45% ทางด้าน Kospi ของเกาหลีใต้เปิด -0.37% และดัชนี ASX 200 ของออสเตรเลียเปิด +0.1%
· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสต์
- นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.75 - 31.90 บาท/ดอลลาร์ โดยหลังจากกนง.มีมติคงดอกเบี้ยเมื่อวานนี้ บาทเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย เพราะมติเป็นไปตามตลาดคาด การเมืองในประเทศยังไม่มีผลต่อทิศทางเงินบาทมากนัก เนื่องจากตลาดรอดูปัจจัยต่างประเทศเป็นหลัก
- เมื่อวานนี้ กนง. มีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.75% ต่อปี เพื่อรอประเมินผลกระทบให้ชัดเจนขึ้น เนื่องจากมีปัจจัยเสี่ยงต่อเสถียรภาพระบบการเงินที่ต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง หลังมองเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ ประกอบกับความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจโลกและปัจจัยในประเทศยังมีอยู่สูงในระยะข้างหน้า
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา มีความเห็นต่อการประชุม กนง.ว่า ท่ามกลางปัจจัยแวดล้อมที่เป็นอยู่ ยังคาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายน่าจะคงอยู่ที่ระดับ 1.75% จนถึงสิ้นปี แม้ว่าธนาคารกลางบางแห่งได้ปรับเปลี่ยนนโยบายเป็นแบบผ่อนปรนมากขึ้น