· เมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯยังคงเคลื่อนไหวแดนลบ โดยกลับมาเผชิญแรงเทขายอย่างหนักในสัปดาห์นี้ จากข่าว Trade War ที่ดูเหมือนการที่สหรัฐฯจะขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนมีแนวโน้มจะเกิดผลบังคับใช้ในวันนี้ โดยดัชนีดาวโจนส์ปิด -138.97 จุด ที่ 25,828.36 จุด ขณะที่ S&P500 ปิด -0.3% ที่ 2,870.72 จุด และ Nasdaq ปิด -0.41% ที่ 7,910.59 จุด โดยสัปดาห์นี้ดาวโจนส์ดิ่งลงไปกว่า 650 จุด ขณะที่ S&P500 ร่วงลงไปประมาณ 2.5% หลังนายทรัมป์มีการข่มขู่จะขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนในช่วงปลายสัปดาห์นี้
อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นลดแรงสูญเสียได้บ้าง หลังจากที่เมื่อวานนี้ นายทรัมป์ มองว่า ยังมีความเป็นไปได้ที่จะบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับจีนในสัปดาห์นี้
· หุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงจากความกังวลเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่ดูจะรุนแรงขึ้น โดยดัชนี Stoxx 600 ปิด -1.74% ท่ามกลางหุ้นส่วนใหญ่ที่ร่วงลงในแดนลบ ทางด้าน CAC ซึ่งเป็นดัชนีของฝรั่งเศสปรับตัวลงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ -2%
· ตลาดหุ้นเอเชียเปิดปรับขึ้นเช้านี้ แม้ว่าจะมีความกังวลต่อการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจีนของทางสหรัฐฯในวันนี้ได้ ท่ามกลางการเจรจาระหว่างสองประเทศที่กำลังดำเนินไป
ดัชนีนิกเกอิเปิด +0.42% ด้าน Topix เปิด +0.4% และ Kospi ของเกาหลีใต้เปิด +1% รวมทั้ง ASX200 เปิด +0.27%
· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทวันนี้ระหว่าง 31.70 - 31.85 บาท/ดอลลาร์
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) เผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก (Krungsri SME Index) ในไตรมาส 1/2562 ว่า ผู้ประกอบการ SME มองเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 2 จะเติบโตดีกว่าในไตรมาส 1 แม้ว่าจะมีมุมมองบวกลดลงเมื่อเทียบกับการสำรวจในรอบที่แล้ว