· ผลสำรวจจาก Kitco สะท้อนว่า ส่วนใหญ่ของนักลงทุนในตลาดมองว่าสัปดาห์นี้มีโอกาสเป็น Sideways และปรับขึ้นได้ด้วยอัตราที่เท่าๆกัน 37%ขณะที่การปรับตัวลงมีโอกาสที่ 26% สำหรับผู้เชี่ยวชาญในตลาดทองกว่า 53% มองโอกาสทองปรับขึ้น ขณะที่รองลงมา 31% มองว่าทองคำมีโอกาสลงต่อ และเคลื่อนไหว Sideways ที่ 16%
· เทรดเดอร์บางส่วน มองว่า ราคาทองคำมีแรงหนุนอยู่ในตลาดจากการร่วงลงของตลาดหุ้น ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน
· หัวหน้านักกลยุทธ์ฝ่ายการตลาดจาก SIA Wealth Management หนึ่งในคนที่โหวตว่าทองคำจะ Sideways กล่าวว่า ราคาทองคำในเชิงเทคนิคมีแนวโน้มจะอ่อนตัวลงเล็กน้อย หลังจากที่ปรับตัวขึ้นไปเมื่อไม่นานมานี้ โดยตลาดยังคงพิจารณาจากความเสี่ยงและความผันผวน ซึ่งทองคำยังไม่ได้ปรับตัวขึ้นมากนัก ท่ามกลางเงินเฟ้อที่ยังคงชะลอตัว หรืออาจบอกได้ว่าการขึ้นของทองคำจริงๆแล้วนั้นเกิดจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสองประเทศเป็นสำคัญ และหากความตึงเครียดดังกล่าวชะงักงันก็มีโอกาสเห็นทองคำปรับตัวลงต่อได้ แต่ก็ยากที่จะเห็นทองคำไปได้ไกลมากกว่านี้ในระยะสั้นๆ
· นักวิเคราะห์จาก CMC Markets ก็เป็นอีกคนที่มองว่าทองคำระยะสั้นๆจะเคลื่อนไหวในกรอบ จากกรณี Trade War ท่ามกลางภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ยังคงแข็งแก่รง และนั่นเป็นตัวจำกัดภาวะขาขึ้นของทองคำ และยิ่งหากเฟดกลับมาใช้นโยบายผ่อนคลายก็อาจเป็นเพียงช่วงเวลาก่อนที่ธนาคารอื่นๆจะใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินมากขึ้น ที่อาจกลับกลายเป็นปัจจัยสนับสนุนดอลลาร์ และจะเห็นได้ว่าทองคำเองก็ไม่สามารถปรับขึ้นไปได้มากกว่านี้แม้ตลาดหุ้นจะร่วงไปกว่า 400 จุด
· ประธานโบรกเกอร์ Blue Line Futures กล่าวว่า ทองคำมีแนวโน้มจะแกว่งตัวไปก่อน โดยยังไม่มีปัจจัยอะไรมาสนับสนุนในขณะนี้ และทองคำดูจะยังเคลื่อนไหวไปในลักษณะนี้ก่อนจะปรับขึ้น โดยการอ่อนตัวของตลาดหุ้นที่ไม่สนับสนุนราคาทองคำมากกว่านี้ ก็มาจากการที่ภาวะปรับฐานของทองคำยังไม่แข็งแกร่งเพียงพอ
· นักวิเคราะห์จาก Phoenix Futures and Options ก็ยังมองทองคำเคลื่อนไหวไร้ทิศทาง โดยทองคำยังคงเคลื่อนไหวแถวระดับเส้นค่าเฉลี่ย MA 200 วัน แถว 1,268.2 เหรียญ ซึ่งทองคำจะปรับตัวขึ้นได้อีกก็ต่อเมื่อประเด็นความรุนแรงทางการเมืองเพิ่มมากขึ้น อาทิ สถานการณ์ในเกาหลีเหนือ, การขึ้นภาษี, ประเทศเวเนซุเอลา หรือแม้แต่การเมืองในสหรัฐฯ เป็นต้น และทั้งหมดนี้ก็มีโอกาสผลักดันให้ทองคำยืนเหนือ 1,305 เหรียญ ซึ่งน่าจะมีการทำShort Covering ก่อนจะมีการเข้าถือสถานะ Long ครั้งใหม่
· นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจาก Kitco กล่าวว่า ราคาทองคำยังคงทรงตัว ท่ามกลางสภาวะขาลงของราคาที่แสดงให้เห็นบนกราฟรายวัน แต่ภาวะขาขึ้นของราคาในสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ยังดูมีเสถียรภาพอยู่ แต่ก็คาดว่าน่าจะเห็นตลาดผันผวนในเชิงปรับขึ้นได้
· มาตรวัดความผันผวนของสินทรัพย์ทั่วโลกดูจะปรับตัวสูงขึ้นท่ามกลางความคืบหน้ากรณีสงกรามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ที่มีนัยยะจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจโลก โดยจะเห็นได้ถึงตลาดหุ้น, ตลาดพันธบัตร, สินค้าโภคภัณฑ์ และค่าเงินมี่ความผันผวนมากขึ้นตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะราคาทองคำที่มีการแกว่งตัวในเชิงขึ้นและลงได้จากแนวโน้มขาขึ้นที่ทำไว้ตั้งแต่ที่ทำระดับต่ำสุดช่วงเดือนส.ค. ปีที่แล้ว
ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวทิศทาง Sideways ตลอดช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ราคาก็ยังทรงตัวอยู่ในกรอบระหว่าง 1,270 – 1,290 เหรียญ ท่ามกลางตลาดที่กำลังรอคอยผลลัพธ์การเจรจาระหว่างสหรัฐฯและจีน
ทางด้าน Gold/Silver Ratio ยังคงปรับตัวขึ้นไปทำ All-Time High เหนือระดับ 90 จุด ซึ่งเป็นระดับที่สูงมากนับตั้งแต่เกิดวิกฤตทางการเงินปี 2008
อย่างไรก็ดี ในท้ายที่สุดแล้วระยะสั้นๆ ทองคำถูกคาดว่าจะทรงตัวโดยมีท่าทีระมัดระวังในตลาด และจากค่า Ratio ก็ดูจะสะท้อนถึงภาวะปรับตัวลงครั้งใหญ่ และคาดว่าอาจเห็นทองคำกลับสู่ระดับแนวรับถัดไปที่ 1,240 – 1,250 เหรียญได้
· ราคาซิลเวอร์ปรับลง 0.3% ที่ระดับ 14.7 เหรียญ ขณะที่ราคาแพลทินัมปรับลง 1% ที่ 852.5 เหรียญ ทางด้านราคาพลาเดียมลดลง -1.6% ที่ 1,335.21 เหรียญ