• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 13 พฤษาคม 2562

    13 พฤษภาคม 2562 | Gold News
· ราคาทองคำปรับตัวลงท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ประกอบกับความไม่แน่นอนเกี่ยวกับข้อตกลงทางการค้าได้เข้ากดดันค่าเงินหยวน และกดดันความต้องการทองคำของผู้บริโภคชาวจีน เนื่องจากมีราคาสินค้าที่สูงขึ้

ราคาทองคำตลาดโลกอ่อนตัวลง 0.2% ที่ระดับ 1,283.46 เหรียญ ขณะที่สัญญาทองคำส่งมอบเดือนมิ.ย. ปิดปรับลง 0.2% ที่ระดับ 1,284.4 เหรียญ

· กรรมการผู้จัดการทั่วไปจาก ABC Bullion กล่าวว่า ราคาทองคำในรูปเงินหยวนปรับตัวสูงขึ้นไปทำระดับอ่อนค่ามากที่สุดนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนพ.ค. ขณะที่ค่าพรีเมียมในเซียงไฮ้อ่อนตัว และมีอุปสงค์ทองคำที่ลดลงตามมาจากแรงเทขายในทองคำ

Trade War ระหว่างสหรัฐฯและจีนกลับมาอีกครั้งในวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากที่มาตรการที่สหรัฐฯจะขึ้นภาษีสินค้าจีนอีก 2 แสนล้านเหรียญมีผลบังคับใช้ ท่ามกลางนายทรัมป์ ที่กล่าวหาว่าจีนเป็นตัวการทำลายข้อตกลง ขณะที่จีนประกาศกร้าวจะทำการตอบโต้ โดยปราศจากการให้รายละเอียดใดๆ

สหรัฐฯและจีนดูเหมือนจะยังไม่สามารถตกลงทางการค้ากันได้เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยทางสหรัฐฯมีการยืนข้อเสนอให้ทางการจีนเปลี่ยนแปลงกฎหมายการค้า ขณะที่จีนจะไม่ทำการเปลี่ยนแปลงใดๆที่ทำให้จีนต้องเสียผลประโยชน์ไป

· ค่าเงินหยวนอ่นอค่าไปทำระดับสูงสุดในรอบกว่า 4 เดือน บริเวณ 6.896 หยวน/ดอลลาร์ โดยภาพรวมอ่อนค่าไป 0.7% ที่ 6.888 หยวน/ดอลลาร์

· นักวิเคราะห์จาก OCBC ฺBank กล่าวว่า ตลาดยังคงจับตาไปยังความเปราะบางของแนวโน้มการเจรจาเชิงบวก ที่ดูเหมือนจะได้รับผลกระทบจากTrade War ครั้งล่าสุด จึงคาดว่าจะเห็ฯทองคำปรับตัวขึ้นได้ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

นักวิเคราะห์บางส่วน มองว่า ราคาทองคำยังคงไม่สามารถผ่านแนวต้านสำคัญ 1,290 เหรียญได้ ตามแรงซื้อทางเทคนิคที่ยังไม่เพียงพอ

· นักวิเคราะห์จาก INTL FCStone ระบุว่า ภาพรวมของทองคำดูจะยังน่าผิดหวังและยังไม่สามารถเลือกข้างได้ว่าจะไปทางฝั่งหมีหรือกระทิง


· ผลสำรวจจาก Kitco สะท้อนว่า ส่วนใหญ่ของนักลงทุนในตลาดมองว่าสัปดาห์นี้มีโอกาสเป็น Sideways และปรับขึ้นได้ด้วยอัตราที่เท่าๆกัน 37%ขณะที่การปรับตัวลงมีโอกาสที่ 26% สำหรับผู้เชี่ยวชาญในตลาดทองกว่า 53% มองโอกาสทองปรับขึ้น ขณะที่รองลงมา 31% มองว่าทองคำมีโอกาสลงต่อ และเคลื่อนไหว Sideways ที่ 16%

· เทรดเดอร์บางส่วน มองว่า ราคาทองคำมีแรงหนุนอยู่ในตลาดจากการร่วงลงของตลาดหุ้น ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน

· หัวหน้านักกลยุทธ์ฝ่ายการตลาดจาก SIA Wealth Management หนึ่งในคนที่โหวตว่าทองคำจะ Sideways กล่าวว่า ราคาทองคำในเชิงเทคนิคมีแนวโน้มจะอ่อนตัวลงเล็กน้อย หลังจากที่ปรับตัวขึ้นไปเมื่อไม่นานมานี้ โดยตลาดยังคงพิจารณาจากความเสี่ยงและความผันผวน ซึ่งทองคำยังไม่ได้ปรับตัวขึ้นมากนัก ท่ามกลางเงินเฟ้อที่ยังคงชะลอตัว หรืออาจบอกได้ว่าการขึ้นของทองคำจริงๆแล้วนั้นเกิดจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสองประเทศเป็นสำคัญ และหากความตึงเครียดดังกล่าวชะงักงันก็มีโอกาสเห็นทองคำปรับตัวลงต่อได้ แต่ก็ยากที่จะเห็นทองคำไปได้ไกลมากกว่านี้ในระยะสั้นๆ

· นักวิเคราะห์จาก CMC Markets ก็เป็นอีกคนที่มองว่าทองคำระยะสั้นๆจะเคลื่อนไหวในกรอบ จากกรณี Trade War ท่ามกลางภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ยังคงแข็งแก่รง และนั่นเป็นตัวจำกัดภาวะขาขึ้นของทองคำ และยิ่งหากเฟดกลับมาใช้นโยบายผ่อนคลายก็อาจเป็นเพียงช่วงเวลาก่อนที่ธนาคารอื่นๆจะใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินมากขึ้น ที่อาจกลับกลายเป็นปัจจัยสนับสนุนดอลลาร์ และจะเห็นได้ว่าทองคำเองก็ไม่สามารถปรับขึ้นไปได้มากกว่านี้แม้ตลาดหุ้นจะร่วงไปกว่า 400 จุด

· ประธานโบรกเกอร์ Blue Line Futures กล่าวว่า ทองคำมีแนวโน้มจะแกว่งตัวไปก่อน โดยยังไม่มีปัจจัยอะไรมาสนับสนุนในขณะนี้ และทองคำดูจะยังเคลื่อนไหวไปในลักษณะนี้ก่อนจะปรับขึ้น โดยการอ่อนตัวของตลาดหุ้นที่ไม่สนับสนุนราคาทองคำมากกว่านี้ ก็มาจากการที่ภาวะปรับฐานของทองคำยังไม่แข็งแกร่งเพียงพอ

· นักวิเคราะห์จาก Phoenix Futures and Options ก็ยังมองทองคำเคลื่อนไหวไร้ทิศทาง โดยทองคำยังคงเคลื่อนไหวแถวระดับเส้นค่าเฉลี่ย MA 200 วัน แถว 1,268.2 เหรียญ ซึ่งทองคำจะปรับตัวขึ้นได้อีกก็ต่อเมื่อประเด็นความรุนแรงทางการเมืองเพิ่มมากขึ้น อาทิ สถานการณ์ในเกาหลีเหนือ, การขึ้นภาษี, ประเทศเวเนซุเอลา หรือแม้แต่การเมืองในสหรัฐฯ เป็นต้น และทั้งหมดนี้ก็มีโอกาสผลักดันให้ทองคำยืนเหนือ 1,305 เหรียญ ซึ่งน่าจะมีการทำShort Covering ก่อนจะมีการเข้าถือสถานะ Long ครั้งใหม่

· นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจาก Kitco กล่าวว่า ราคาทองคำยังคงทรงตัว ท่ามกลางสภาวะขาลงของราคาที่แสดงให้เห็นบนกราฟรายวัน แต่ภาวะขาขึ้นของราคาในสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ยังดูมีเสถียรภาพอยู่ แต่ก็คาดว่าน่าจะเห็นตลาดผันผวนในเชิงปรับขึ้นได้

· มาตรวัดความผันผวนของสินทรัพย์ทั่วโลกดูจะปรับตัวสูงขึ้นท่ามกลางความคืบหน้ากรณีสงกรามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ที่มีนัยยะจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจโลก โดยจะเห็นได้ถึงตลาดหุ้น, ตลาดพันธบัตร, สินค้าโภคภัณฑ์ และค่าเงินมี่ความผันผวนมากขึ้นตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะราคาทองคำที่มีการแกว่งตัวในเชิงขึ้นและลงได้จากแนวโน้มขาขึ้นที่ทำไว้ตั้งแต่ที่ทำระดับต่ำสุดช่วงเดือนส.ค. ปีที่แล้ว

ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวทิศทาง Sideways ตลอดช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ราคาก็ยังทรงตัวอยู่ในกรอบระหว่าง 1,270 – 1,290 เหรียญ ท่ามกลางตลาดที่กำลังรอคอยผลลัพธ์การเจรจาระหว่างสหรัฐฯและจีน

ทางด้าน Gold/Silver Ratio ยังคงปรับตัวขึ้นไปทำ All-Time High เหนือระดับ 90 จุด ซึ่งเป็นระดับที่สูงมากนับตั้งแต่เกิดวิกฤตทางการเงินปี 2008

อย่างไรก็ดี ในท้ายที่สุดแล้วระยะสั้นๆ ทองคำถูกคาดว่าจะทรงตัวโดยมีท่าทีระมัดระวังในตลาด และจากค่า Ratio ก็ดูจะสะท้อนถึงภาวะปรับตัวลงครั้งใหญ่ และคาดว่าอาจเห็นทองคำกลับสู่ระดับแนวรับถัดไปที่ 1,240 – 1,250 เหรียญได้

· ราคาซิลเวอร์ปรับลง 0.3% ที่ระดับ 14.7 เหรียญ ขณะที่ราคาแพลทินัมปรับลง 1% ที่ 852.5 เหรียญ ทางด้านราคาพลาเดียมลดลง -1.6% ที่ 1,335.21 เหรียญ


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com