· หุ้นสหรัฐฯทรุดหนักหลังจีนตัดสินใจเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ และยิ่งตอกย้ำความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างสองประเทศ โดยดาวโจนส์ปิดร่วงลงไป 617.38 จุด คิดเป็น -2.4% ที่ระดับ 25,324.99 จุด ซึ่งถือเป็นระดับปิดที่ย่ำแย่ที่สุดตั้งแต่ 3 ม.ค. ทางด้านดัชนี S&P 500 ปิด -2.4% ที่ระดับ 2,811.87 จุด และถือเป็นระดับปิดที่แย่ที่สุดตั้งแต่ช่วงต้นม.ค.เช่นกัน สำหรับดัชนี Nasdaq ปิด -3.4% ที่ระดับ 7,647.02 จุด และถือเป็นระดับปิดรายวันที่ร่วงลงมากที่สุดของปี
ทั้งนี้ ระหว่างวันดัชนีดาวโจนส์มีการปรับตัวลงไปกว่า 719.86 จุด ขณะที่ S&P 500 และ Nasdaq ร่วงลงระหว่างวัน 2.8% และ 3.6% ตามลำดับ หลังจากที่นายทรัมป์ เผยว่ายังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะขึ้นภาษีสินค้าอื่นๆของจีนมูลค่า 3.25 แสนล้านเหรียญเมื่อไหร่
· ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นแม้ว่าสหรัฐฯจะถูกจีนประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าเพิ่มจาก 10% เป็น 25% เมื่อวานนี้ โดยดัชนี Stoxx600 ปิด +0.4% ขณะที่ German DAX ปิด +0.85%
· นักกลยุทธ์จากดอยซ์แบงก์ (Deutsche Bank) กล่าวว่า กลุ่มนักลงทุนคาดหวังว่าจะเห็นตัวแทนเจรจาทั้งสองฝ่ายหาทางเลือกเพื่อลดความตึงเครียดที่เกิดขึ้นได้
· ตลาดหุ้นเอเชียเปิดแดนลบในเช้านี้ ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน หลังล่าสุดจีนเผยแผนจะขึ้นภาษีสินค้านำเข้าสหรัฐฯ โดยดัชนีนิกเกอิเปิด -1.8% ขณะที่หุ้น Topix เปิด -1.8% ขณะที่หุ้น Kospi ของเกาหลีใต้เปิด -0.76% และดัชนี ASX200 เปิด -1.13%
· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.60 - 31.75 บาท/ดอลลาร์
- 11 พรรคการเมืองขนาดเล็ก มีมติเอกฉันท์สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี และยืนยันการเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)
โดย 11 พรรคการเมือง ประกอบด้วย พรรคพลังชาติไทย พรรคประชาภิวัฒน์ พรรคไทยศรีวิไลย์ พรรคพลังไทยรักไทย พรรคครูไทยเพื่อประชาชน พรรคประชานิยม พรรคประชาธรรมไทย พรรคพลเมืองไทย พรรคปรระชาธิปไตยใหม่ และพรรคพลังธรรมใหม่พรรคไทรักธรรม