· ราคาทองคำทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน ท่ามกลางแรงหนุนจากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนที่ผลักดันให้นักลงทุนพากันเข้าถือครอง Safe-haven
โดยราคาทองคำระหว่างวันทรงตัวบริเวณ 1,298.63 เหรียญ หลังทำระดับสูงสุดที่ 1,303.26 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของวันที่ 11 เม.ย. ไปเมื่อคืนที่ผ่านมา
ด้านราคาสัญญาทองคำปรับลดลง 0.2% บริเวณ 1,299.40 เหรียญ
· ตลาดหุ้นเอเชียปรับร่วงต่อ หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ปิดร่วงเมื่อคืนนี้ ขณะที่ค่าเงินเยนปรับแข็งค่าและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับลดลง หลังจีนได้ประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ เพื่อเป็นการตอบโต้กรณีที่สหรัฐฯเป็นฝ่ายขึ้นภาษีสินค้าจากจีนก่อน
· นักวิเคราะห์จาก OANDA ระบุว่า ราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากนักลงทุนมีความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยที่แข็งแกร่ง ในระหว่างที่เกิดเหตุความขัดแย้งทางการค้า เพื่อถือครองจนกว่าความขัดแย้งจะสงบลง โดยคาดว่าราคาทองคำจะปรับขึ้นไปถึงบริเวณ 1,310 – 1,312 เหรียญ หากตลาดหุ้นยังปรับตัวลงต่อ แต่ถ้าเกิดกรณีที่สหรัฐฯ-จีนกลับมาหาข้อตกลงร่วมกันได้แบบกระทันหัน ก็จะเห็นนักลงทุนหันออกจากสินทรัพย์ปลอดภัยได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน
ราคาทองคำเมื่อคืนนี้ ปรับสูงขึ้นได้ถึง 1.1% ซึ่งเป็นอัตราที่มากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 19 ก.พ. ทะลุแนวต้านทางเทคนิคขึ้นมาหลายแนวด้วยกันซึ่งแนวต้านเหล่านั้นล้วนแต่เป็นแนวต้านที่กดดันไม่ให้ราคาทองคำสามารถปรับสูงขึ้นมาได้ติดต่อกันเป็นเวลาหลายสัปดาห์
ปัจจัยหลักที่หนุนให้ราคาทองคำปรับสูงขึ้นมาได้ คือการที่จีนประกาศออกนโยบายภาษีตอบโต้สหรัฐฯเมื่อคืน หลังจากสหรัฐฯได้ประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 2 แสนล้านเหรียญไปเมื่อสัปดาห์ก่อน
นอกจากการขึ้นภาษีแล้ว บรรดานักลงทุนยังมีความกังวลว่าจีนอาจพิจารณาลดการถือครองพันธบัตรสหรัฐฯ เพื่อเป็นกลยุทธ์กดดันทีมบริหารของประธานาธิบดีสหรัฐฯ
อีกปักจัยที่หนุนความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยในตลาด คือกรณีความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯและอิหร่าน หลังจากเมื่อวานนี้ ซาอุดิอาระเบียมีรายงานว่า รถบรรทุกน้ำมันจำนวน 2 คนของพวกเขาถูกโจมตีใกล้พื้นที่อ่าวของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
· นักวิเคราะห์จาก SPI Asset Management ระบุว่า แนวโน้มที่ความขัดแย้งในตะวันออกกลางอาจนำไปสู่การสู้รบกับสหรัฐฯ และการที่จีนอาจพิจารณาใช้พันธบัตรสหรัฐฯเป็นอาวุธในการต่อรองทางการค้ากับสหรัฐฯ ทั้ง 2 ประเด็นดังกล่าว แม้จะยังมีความเป็นไปได้ต่ำ แต่ก็กดดันให้ตลาดสูญเสียความเชื่อมั่นไปอย่างมาก
· การถือครองทองคำของกองทุน SPDR เป็นอีกปัจจัยที่สะท้อนถึงความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยของนักลงทุน โดยจะเห็นได้ว่าทางกองทุนได้เพิ่มการถือครองทองคำขึ้น 0.44% เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นอัตราที่มากที่สุดในรอบเกือบ 2 เดือน
· นักวิเคราะห์จาก Reuters คาดว่า ราคาทองคำจะขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,307 เหรียญ หากผ่านไปได้จะมีเป้าหมายถัดไปที่ 1,322 เหรียญ
· ราคาซิลเวอร์ปรับสูงขึ้น 0.2% บริเวณ 14.79 เหรียญ ขณะที่ราคาแพลทินั่มปรับสูงขึ้ย 0.9% แถว 861.13 เหรียญ และราคาพลาเดียมปรับสูงขึ้น 0.6% แถว 1,329.25 เหรียญ