· ราคาทองคำอ่อนตัวลงติดต่อกัน 3 วันทำการ ท่ามกลางการแข็งค่าของดอลลาร์ หลังจากที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯยังอยู่ในเกณฑ์แข็งแกร่ง ประกอบกับภาพรวมของตลาดหุ้นทั่วโลกที่มีการฟื้นตัว
· ราคาทองคำตลาดโลกปิดปรับลง 0.7% ที่ 1,288.03 เหรียญ ซึ่งถือเป็นภาพรวมระดับวันที่อ่อนตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่ 16 เม.ย. ขณะที่สัญญาทองคำส่งมอบเดือนมิ.ย. ปิดลดลง 11.6 เหรียญ ที่ 1,286.2 เหรียญ
· กองทุน SPDR เมื่อวานนี้ ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 733.23 ตัน
· ดัชนีดอลลาร์ปรับขึ้นไปทำระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ หลังจากที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาแข็งแกร่ง โดยข้อมูลภาคที่อยู่อาศัย อาทิ ยอดก่อสร้างบ้านเพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนเม.ย. และข้อมูลอัตราคนว่างานสหรัฐฯในสัปดาห์ที่แล้วดีขึ้นเกินคาด และยังบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงานที่เป็นตัวตอกย้ำทิศทางเศรษฐกิจ และข้อมูลทั้งสองตัวที่ดีขึ้นควบคู่กับผลประกอบการบริษัทที่ปรับขึ้นได้หนุนความเชื่อมั่นสินทรัพย์เสี่ยงของกลุ่มนักลงทุน จึงเป็นปัจจัยลบต่อทองคำ
· ผู้อำนวยการฝ่ายซื้อขายโลหะมีค่าจาก High Ridge Futures กล่าวว่า การแข็งค่าของดอลลาร์เป็นปัจจัยหลักที่เข้ากดดันราคาทองคำ ควบคู่กับตลาดหุ้นที่มีการรีบาวน์จากระดับต่ำสุดเมื่อไม่นานมานี้ และทำให้มีกระแสเงินไหลออกจากสินทรัพย์ Safe-Haven
· นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Kitco ระบุว่า ราคาทองคำระยะสั้นมีโอกาสเป็นได้ทั้งขาขึ้นและขาลง โดยเราต้องจับตาบริเวณ 1,300 เหรียญ เพราะหากผ่านไปได้ก็มีโอกาสกลับไปทดสอบ High เดิมของสัปดาห์นี้ที่ 1,304 เหรียญ
· นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจาก Reuters มองว่า ยังมีโอกาสเห็นราคากลับทดสอบแนวต้าน 1,307 เหรียญ ซึ่งหากผ่านไปได้ก็มีโอกาสเห็นทองคำขึ้นไปแถว 1,322 เหรียญ
· ปัจจัยบวกในตลาดทองคำขณะนี้ คือประเด็นที่ทีมบริหารทรัมป์มีการออกมาตรการให้บริษัทเทเลคอมรายใหญ่ของจีนอย่าง “หัวเว่ย” ถูกขึ้นบัญชีดำ และถือเป็นปัจจัยที่เข้ากดดันความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและจีนมากขึ้น ในขณะที่ทั้งสองประเทศ ณ ขณะนี้ถือเป็นประเด็นเด่นของตลาดทั่วทุกมุมโลก โดยวันหนึ่งเป็นประเด็นเรื่องเดินหน้าเจรจาการค้าต่อ อีกวันหนึ่งเป็นเรื่องของการแบนบริษัทจีน จึงยังคงทำให้ตลาดการเงินยังมีความไม่แน่นอนอย่างมากว่าจะเกิดอะไรขึ้น
· ราคาซิลเวอร์ปิด -0.4% ที่ 14.74 เหรียญ ขณะที่ราคาแพลทินัมปิด -0.2% ที่ 843.65 เหรียญ และราคาพลาเดียมปิด -1% ที่ 1,331.3 เหรียญ หรือร่วงลงไปประมาณ 17% จากระดับราคาที่เคยขึ้นไปทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนมี.ค.ที่ 1,620.53 เหรียญ