· ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลง ท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้น หลังจากที่สหรัฐฯออกมาตรการคว่ำบาตรบริษัทเทเลคอมยักษ์ใหญ่ของจีนอย่าง Huawei รวมทั้งถ้อยแถลงของรัฐบาลจีนที่เริ่มมองไม่เห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการเจรจาการค้าร่วมกับสหรัฐฯอีกต่อไป จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันตลาด โดยดัชนี Stoxx600 ร่วงลง 0.6%
· ตลาดหุ้นเอเชียได้รับผลกระทบครั้งใหม่ เนื่องจากถูกกดดันจากถ้อยแถลงของรัฐบาลจีนรัฐบาลจีนที่เริ่มมองไม่เห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการเจรจาการค้าร่วมกับสหรัฐฯอีกต่อไป เนื่องจากรู้สึกได้ว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไม่มี “ความจริงใจ” ต่อแนวทางการเจรจาในช่วงที่ผ่านมา แม้จะมีแรงหนุนจากผลประกอบการสหรัฐฯที่แข็งแกร่งก็ตาม โดยดัชนี MSCI ร่วงลง 0.7% ในช่วงก่อนหน้านี้
โดยหุ้น Shanghai เคลื่อนไหวในแดนลบ ท่ามกลางผลกระทบหลังจากที่สหรัฐฯออกมาตรการคว่ำบาตรบริษัทเทเลคอมยักษ์ใหญ่ของจีนอย่าง Huawei
· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้น นำโดยหุ้นบริษัท Sony เพิ่มขึ้น 9.9% หลังจากประกาศการซื้อคืนและความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ Microsoft Corp ในด้านต่างๆเช่นการสตรีมเกมส์และเซ็นเซอร์ภาพใหม่ และหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอื่นๆ อย่างไรก็ดี ภาพรวมรายสัปดาห์ปรับลดลงเล็กน้อยท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่เพิ่มมากขึ้น
โดยดัชนี Nikkei เพิ่มขึ้น 0.89% ที่ระดัย 21,251 จุด สำหรับภาพรวมรายสัปดาห์ ลดลง 0.44% ซึ่งร่วงลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 2
· ตลาดหุ้นจีนปิดปรับตัวลง ติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 4 เนื่องจากความตึงเครียดทางการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้นเนื่องระหว่างสหรัฐฯและบริษัท Huawei ของจีน
โดยดัชนี Shanghai Composite ร่วงลง 2.5% ที่ระดับ 2,882.30 จุด สำหรับภาพรวมรายสัปดาห์ร่วงลงไป 2.9%
· รัฐบาลของจีน ระบุว่า ข้อจำกัดทางการค้ากับสหรัฐฯส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของจีนบ้าง แต่ก็ “สามารถควบคุมได้” และมาตรการตอบโต้จะถูกยกเลิกเมื่อมีความจำเป็นเพื่อรักษาการดำเนินการทางเศรษฐกิจให้อยู่ในขอบเขตที่เหมาะสม
อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ไทยพร้อมร่วมมือกับธนาคารโลก เพื่อยกระดับประเทศและภูมิภาคในทุกด้าน โดยในระยะยาว ไทยยังต้องพัฒนาอีกหลายด้าน ซึ่งต้องการคำแนะนำและความเชี่ยวชาญจากธนาคารโลก ทั้งนี้ ไทยพร้อมสนับสนุนการจัดทำกรอบความเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาระดับประเทศ (Country Partnership Framework: CPF) กับธนาคารโลก เชื่อมั่นว่าโครงการดังกล่าวจะนำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ไทยอย่างยั่งยืน