· ราคาทองคำปรับตัวขึ้นไปกว่า 1% ท่ามกลางการอ่อนค่าของดอลลาร์ที่ปรับตัวลงจากระดับสูงสุดรอบ 2 ปี ในช่วงต้นตลาด ขณะที่ตลาดหุ้นทั่วโลกอ่อนตัวลงจากปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน โดยที่ราคาทองคำปรับตัวขึ้นไปกว่า 1% ที่ 1,285.63 เหรียญ หลังไปทำต่ำสุดเมื่อวันอังคารที่ 1,268.97 เหรียญ ขณะที่สัญญาทองคำส่งมอบเดือนมิ.ย. ปิดปรับขึ้น 0.9% ที่ 1,285.5 เหรียญ
· กองทุน SPDR เมื่อวานนี้ ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 738.81 ตัน
· นักวิเคราะห์ทองคำจาก Standard Chartered Bank ระบุว่า ราคาทองคำได้รับแรงหนุนอีกครั้งจากการอ่อนค่าของดอลลาร์อีกครั้ง โดยดอลลาร์ถูกแรงเทขายทำกำไรเข้ามาในตลาดหลังจากที่ช่วงต้นตลาดไปทำระดับสูงสุดรอบ 2 ปีบริเวณ 98.371 จุด ขณะที่รายงานประชุมเฟดยังสะท้อนถึงภาวะที่เฟดจะอดทนรอต่อการจะดำเนินนโยบายการเงิน จึงถือเป็นสัญญาณบวกต่อตลาด พร้อมกันนี้ตลาดก็เริ่มที่จะประเมินว่าน่าจะมีโอกาสมากขึ้นที่จะเห็นเฟดนั้นทำการปรับลดดอกเบี้ย
· นักวิเคราะห์จาก ABN Amro กล่าวว่า ทองคำได้รับอานิสงส์จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอ่อนตัวลง ขณะที่ตลาดหุ้นก็ปิดแดนลบจากกรณีความตึงเครียดทางการค้ากับสหรัฐฯและจีนที่ดูจะทวีความรุนแรงขึ้น และส่งผลกระทบให้อาจเป็นสงครามเย็นทางด้านเทคโนโลยีระหว่าง 2 ประเทศ
· จีน กล่าวว่า สหรัฐฯจำเป็นต้องแก้ไขการดำเนินการที่ผิดพลาดเพื่อให้การเจรจาทางการค้าระหว่างสองประเทศดำเนินไปได้ต่อ โดยเป็นการแสดงความคิดเห็นหลังจากที่สหรัฐฯขึ้นบัญชีดำบริษัท Huawei
· ในช่วงต้นตลาดอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปีปรับตัวลงไปทำระดับต่ำสุดตั้งแต่ธ.ค. ปี 2017
· ราคาซิลเวอร์ปรับขึ้น 1.2% ที่ 14.62 เหรียญ ขณะที่ราคาพลาเดียมปิด +0.2% ที่ 1,316.8 เหรียญ และราคาแพลทินัมปิด +0.2% ที่ 800.52 เหรียญ หลังไปทำต่ำสุดตั้งแต่ 15 ก.พ. บริเวณ 791 เหรียญ