MTS Help Center

ราคาทองคำปรับลดลง 0.2% บริเวณ 1,282.86 เหรียญ หลังทำระดับสูงสุดที่ 1,287.32 เหรียญในช่วงตลาดก่อนหน้า

ด้านราคาสัญญาทองคำปรับลดลง 0.1% บริเวณ 1,281.80 เหรียญ

· นักวิเคราะห์จาก OANDA ระบุว่า ราคาทองคำมีการเคลื่อนไหวที่น่าผิดหวัง เนื่องจากไม่สามารถผ่านแนวต้านสำคัญที่บริเวณ 1,290 – 1,300 เหรียญ แม้จะมีแรงหนุนจากความตึงเครียดทางการค้า การชะลอขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด และความผันผวนในตลาดหุ้นก็ตาม ซึ่งเงินลงทุนบางส่วนไหลเข้าสู่ Bitcoin ขณะที่ยังไม่ค่อยมีปัจจัยใดที่หนุนค่าเงินดอลลาร์ในช่วงนี้

· ดัชนีดอลลาร์แข็งค่า 0.2% เมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักที่บริเวณ 97.806 จุด หลังทำระดับต่ำสุดที่ 97.546 จุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นได้ เนื่องจากค่าเงินยูโรชะลอตัวเพื่อจับตาดูท่าทีหลังการเลือกตั้งรัฐสภาอียู จากผลการเลือกตั้งที่ออกมาเป็นแบบรัฐสภาสองขั้ว

Bitcoin ปรับสูงขึ้นทำระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 ปีที่ 8,939.18 เหรียญเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ก่อนจะย่อตัวลงมาเคลื่อนไหวบริเวณ 8,810.82 เหรียญในวันนี้ โดยเมื่อวันที่ 13 พ.ค. Bitcoin ปรับขึ้นเหนือระดับ 8,000 เหรียญได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน มิ.ย. ปี 2018

ในการพบกับระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น นายทรัมป์ได้กล่าวว่า ตนยังไม่พร้อมที่จะทำข้อตกลงทางการค้าร่วมกับจีน ส่งผลให้ตลาดเสียความเชื่อมั่นว่าสหรัฐฯ-จีนจะสามารถบรรลุข้อตกลงได้ในเร็วๆนี้

ตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่ประกาศออกมาอ่อนแอในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นปัจจัยที่กดดันให้ตลาดประเมินว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯกำลังได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าเช่นเดียวกัน เฟดจึงมีแนวโน้มที่จะพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น

· นักวิเคราะห์จาก Reuters ระบุว่า ทิศทางระยะสั้นของทองคำผันผวน เนื่องจากราคาไม่สามารถผ่านแนวต้านสำคัญที่ 1,286 เหรียญได้ติดต่อกันถึง 2 ครั้ง ขณะที่มองแนวรับสำคัญของทองคำไว้ที่ระดับ 1,270 เหรียญ

· นักวิเคราะห์จาก TD Securities ประเมินว่า ราคาทองคำยังมีทิศทางปรับตัวสูงขึ้นได้ และมีเป้าหมายที่ระดับ 1,300 เหรียญ โดยมีแรงหนุนมาจากแนวโน้มของการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ส่วนต่างระหว่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เรียบแบน และความผันผวนของตลาดหุ้นที่มีแนวโน้มจะรุนแรงยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ดี อันที่จริงแล้วแพทเทิร์น Head and Shoulder นั้นยังคงเกิดขึ้นอยู่ ตราบเท่าที่ระดับราคาซื้อขายยังอยู่ต่ำกว่า 1,310 เหรียญในกรอบรายวัน และในอีก 2-3 วันทำการ ราคาผันผวนกลับลงมาและต่ำกว่า 1,266 เหรียญ ก็จะสร้างความผันผวนขาลงให้ทองคำ พร้อมกันนี้อาจเห็นทองคำกลับลงไปโดยมีเป้าหมายแถว 1,235 หรือ 1,230 เหรียญได้

ในทางกลับกัน กรณีที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวอายุ 10 ปีของสหรัฐฯมีการทำจุดต่ำสุดใหม่ของปีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประกอบกับความตึงเครียดทางการค้าครั้งใหม่กรณี Trade War ก็ดูจะเป็นปัจจัยลบต่อตลาดสินทรัพย์เสี่ยง ดังนั้น ประเด็นเหล่านี้ก็อาจเป็นปัจจัยที่ผลักดันให้ทองคำสามารถปรับขึ้นไปได้เหนือ 1,310 เหรียญ

· นักวิเคราะห์จาก TD Securities แนะนำการลงทุนในทองคำให้เป็นลักษณะ “Buying the dips” หรือเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว และเมื่อพิจารณาจากกราฟจะเห็นว่าระยะสั้นมีโอกาสเห็นทองคำกลับไปแถว 1,300 เหรียญได้ อันเนื่องจากการที่เฟดน่าจะมีนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน ขณะที่สินทรัพย์เสี่ยงดูจะอ่อนกำลังจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน

· บรรดานักกลยุทธ์มีมุมมองว่า กลุ่มโลหะมีค่ามีแนวโน้มจะได้รับอานิสงส์ครั้งใหม่จากการที่สินทรัพย์เสี่ยงอ่อนตัว ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่เป็นปัจจัยหลัก ราคาทองคำมีการรีบาวน์กลับได้จากระดับต่ำสุดแถว 1,267 เหรียญ ไปทำ High ที่ 1,288 เหรียญ ขณะที่ซิลเวอร์ดีดกลับจาก 14.38 เหรียญ มาที่ 14.65 เหรียญ

ขณะที่ปัจจัยสนับสนุนอื่น มาจากความเป็นไปได้ที่เฟดจะทำการปรับลดแนวทางการดำเนินนโยบายลง หรืออาจเห็นเฟดปรับลดดอกเบี้ยได้เร็วกว่าที่ตลาดคาด อันเป็นผลมาจากภาพทางเศรษฐกิจที่ไม่สดใสนัก ซึ่งจะเห็นได้ว่าเฟดยังคงดอกเบี้ยไว้ท่ามกลางเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ยังฟื้นตัวได้ ท่ามกลางค่าเงินดอลลาร์ที่อยู่ในทิศทางแข็งค่า ขณะที่การปรับลดดอกเบี้ยจะสะท้อนถึงสภาวะที่ตรงกันข้าม และนั่นช่วยให้ทองคำดีดกลับจากระดับต่ำสุดได้

· ด้านราคาซิลเวอร์ปรับลดลง 0.4% แถว 14.53 เหรียญ ขณะที่ราคาพลาเดียมปรับสูงขึ้น 0.4% แถว 1,341 เหรียญ

· ราคาแพลทินัมปรับสูงขึ้น 0.4% แถว 809.32 เหรียญ