· ราคาทองคำตลาดโลกปิด +0.2% ที่ระดับ 1,281.3 เหรียญ ขณะที่สัญญาทองคำส่งมอบเดือนมิ.ย. ปิดปรับขึ้น 0.3% ที่ระดับ 1,281 เหรียญ
· กองทุน SPDR เมื่อวานนี้ทำการซื้อทองคำ 3.52 ตัน โดยปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 740.86 ตัน
· นักวิเคราะห์จาก CPM Group ระบุว่า ไม่เพียงแต่ Trade War ที่เกิดขึ้น แต่สถานการณ์ทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ, จีน และยุโรป รวมไปถึงกรณีBrexit ก็กำลังเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งสภาวะแวดล้อมเช่นนี้ ทำให้บรรดานักลงทุนค่อนข้างไม่มั่นใจว่าจะลงทุนในสภาวะเช่นนี้อย่างไร จึงทำให้นักลงทุนไม่แน่ใจว่าจะ Long หรือ Short ดี ในตลาดหุ้น และตลาดพันธบัตร จึงทำให้พวกเขาเลือกถือทองคำเพิ่มขึ้น หลังจากที่ตลาดหุ้นปรับตัวลงตลอดช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา
· ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงส่วนใหญ่ทั่วโลกเผชิญแรงกดดันจากความกังวลว่าเศรษฐกิจโลกจะต้องเผชิญกับภาวะถดถอย ท่ามกลางข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของประเทศหลักๆที่ออกมาอย่างน่าผิดหวัง
· ตลาดหุ้นทั่วโลกอ่อนตัวลง ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯทำต่ำสุดรอบ 20 เดือน จึงสะท้อนว่า ความเชื่อมั่นของนักลงทุนมีความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจโลก
· ความตึงเครียดของสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนเพิ่มขึ้น หลังสำนักข่าวในจีนที่กล่าวเตือนว่าจีนอาจใช้แร่หายากมาตอบโต้สหรัฐฯจากสงครามการค้าที่กินระยะเวลานาน
· การนำเสนอข่าวดังกล่าวมีขึ้นในช่วง 2 วันให้หลัง หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่ายังไม่พร้อมทำข้อตกลงกับจีน
· นักวิเคราะห์จาก OANDA กล่าวว่า แม้ราคาทองตำจะปรับขึ้นได้ในฐานะ Safe-Haven แต่ก็ดูเหมือนนักลงทุนจะเลือกเข้าหาตลาดพันธบัตรมากกว่า จึงเห็นทองคำปรับตัวขึ้นได้อย่างจำกัด แต่สภาวะความกังวลที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นก็อาจทำให้ทองคำ Break เหนือ 1,300 เหรียญได้
· อย่างไรก็ดี ปัจจัยที่จะมาสกัดกั้นทองคำก็ยังเป็นค่าเงินดอลลาร์ แต่ก็ดูเหมือนจะมีโอกาสเห็นดอลลาร์กลับอ่อนค่าลงมาได้ หากเฟดยอมรับว่าเงินเฟ้อไม่เป็นไปตามเป้าหมาย และเฟดมีการพิจารณาถึงการปรับลดดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาดหวังไว้
· ราคาซิลเวอร์ปิด +0.7% ที่ระดับ 14.44 เหรียญ หลังจากที่วันก่อนดิ่งลงไปทำต่ำสุดตั้งแต่ต้นเดือนธ.ค. ที่ระดับ 14.25 เหรียญ
· ราคาแพลทินัมปิด +0.3% ที่ 793.09 เหรียญ หลังไปทำต่ำสุดตั้งแต่ 15 ก.พ. ที่ระดับ 787 เหรียญ
· ราคาพลาเดียมปิด +1.1% ที่ระดับ 1,350.52 เหรียญ