· ค่าเงินดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลงเล็กน้อย 0.09% แถว 97.057 จุด หลังนายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด กล่าวในเชิงความเป็นไปได้ที่จะทำการปรับลดดอกเบี้ยจากการเผชิญกับความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ อันประกอบไปด้วยสงครามการค้าระดับโลก
ทั้งนี้ เฟดจะรับมืออย่างเหมาะสมทั้งจากประเด็นการค้า และความผันผวนของปัจจัยอื่นๆ พร้อมกันนี้ นายโพเวลล์ยังระบุถึงการที่เฟดจับตาอย่างใกล้ชิดต่อปัจจัยเกี่ยวข้องต่างๆของข้อขัดแย้งทางการค้า นับตั้งแต่การประชุมครั้งล่าสุดที่ผ่านมา ความผกผันของพันธบัตรทั่วโลก และความผันผวนของตลาดหุ้นที่ดูจะสร้างความเสี่ยงทางการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯและเศรษฐกิจโลก
รองประธานด้านการซื้อขายจาก Tempus Inc. กล่าวว่าถ้อยแถลงของประธานเฟดส่งผลเชิงลบต่อดอลลาร์ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ดอลลาร์ร่วงลงมากนัก เพราะดอลลาร์ได้ร่วงลงมาแล้วตั้งแต่วันจันทร์ หลังจากที่ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวถ้อยแถลงในเชิงลดท่าทีคุมเข้มทางการเงิน และทั้ง 2 ก็มีการกล่าวแสดงความกังวลในเรื่องเดียวกัน คือความตึงเครียดทางการค้าและเงินเฟ้อ
ค่าเงินปอนด์รีบาวน์ขึ้นจากระดับอ่อนค่ามากที่สุดรอบ 5 เดือน โดยเมื่อคืนปิด +0.32% กลับแข็งค่ามาที่ 1.270 ดอลลาร์/ปอนด์ แต่ตลาดก็ยังมีความกังวลต่อประเด็น Brexit อยู่ ท่ามกลางคำสัญญาของนายทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯเมื่อวานนี้ต่อข้อตกลงการค้าฉบับพิเศษหลังอังกฤษออกจากอียู
· อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปี รีบาวน์กลับหลังจากที่ร่วงลงไปทำระดับต่ำสุดรอบ 20 เดือน หลังจากที่นายโพเวลล์ ระบุถึงการที่เฟดจะพยายามรักษาเสถียรภาพของการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยอัตราผลตอบแทนอายุ 10 ปี ปรับขึ้นมาแถว 2.128% ขณะที่อัตราผลตอบแทน 2 ปี ปรับขึ้นมาที่ 1.879%
· เมื่อคืนนี้ นายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด ระบุว่า เฟดจะทำการรับมืออย่างเหมาะสมต่อสภาวะความเสี่ยงจากสงครามการค้าระดับโลก และความคืบหน้าต่างๆเมื่อไม่นานมานี้ และถ้อยแถลงดังกล่าว ดูจะเป็นการตอกย้ำถึงความเป็นไปได้ที่เฟดจะทำการปรับลดดอกเบี้ยลง
รวมทั้งยังสะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่ลดลงเกี่ยวกับการบริหารของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะแก้ไขข้อพิพาทกับประเทศคู่ค้าชั้นนำ
· รายงานจาก CNBC ระบุว่า การที่ทีมบริหารของนายทรัมป์ขึ้นบัญชีดำบริษัท Huawei ดูจุสร้างแรงกดดันต่อบริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐฯด้วย โยล่าสุดบริษัทผู้ผลิตชิพของสหรัฐฯ อย่าง Skyworks Solutions มีการปรับลดผลประกอบการรายไตรมาส และคาดการณ์ผลกำไรบริษัทลงเมื่อวานนี้ เนื่องจากมีการหยุดขนส่งสินค้าให้บริษัท Huawei และนั่นทำให้หุ้นบริษัทดังกล่าวเมื่อวานนี้ตกลงไปกว่า 1% และภาพรวมปรับตัวลงมาแล้วกว่า 12% ตั้งแต่ 15 พ.ค. นับตั้งแต่ที่นายทรัมป์ลงนามคำสั่งดังกล่าว
· นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้สัญญากับรัฐบาลอังกฤษ ว่าสหรัฐฯจะร่วมมือกับอังกฤษเพื่อหาข้อตกลงทางการค้าที่ “ยอดเยี่ยม” หลังจาก Brexit โดยไม่มีกล่าวถึงความคิดเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับประเด็น Huawei แต่อย่างใด
หลังจากที่นายทรัมป์ได้เข้าเฝ้าพระราชินีอลิซาเบธในการเดินทางเยือนอังกฤษวันแรก นายทรัมป์ได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ที่พิเศษระหว่างทั้ง 2 ประเทศ ทำให้ตลาดลดความกังวลว่านายทรัมป์จะมีการกล่าววิจารณ์อังกฤษในทางลบ รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับการลาออกของนางเทเรซ่า เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ที่คลี่คลายลงไปบางส่วน
· บรรดาสมาชิกสภาคองเกรสแห่งสหรัฐฯ ซึ่งรวมสมาชิกจากพรรครีพับลิกันบางส่วนและจากพรรคเดโมแครต กำลังร่วมมือกันร่างนโยบายที่จะมาหยุดการขายอาวุธของสหรัฐฯเป็นมูลค่า 8 พันล้านเหรียญให้กับซาอุดิอาระเบีย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และ จอร์แดน ซึ่งรายละเอียดนโยบายดังกล่าวน่าจะมีประกาศอย่างเป็นทางการออกมาในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
ทั้งนี้ บรรดาสมาชิกสภาคองเกรสพยายามที่จะผลักดันนโยบายดังกล่าวเพื่อป้องกันไม่ให้ทีมบริหารของประธานาธิบดีทรัมป์สามารถดำเนินการค้าอาวุธไปยังตะวันออกกลางได้หากไม่ได้รับความเห็นชอบจากสภา ซึ่งจะรวมไปถึงประธานาธิบดีในอนาคตด้วย ท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯและอิหร่านที่อาจบานปลาย ประกอบกับการที่นายทรัมป์เคยระบุว่า กำลังมีแผนการทางทหารมากกว่า 22 แผนที่กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาเมื่อวันที่ 22 พ.ค. ที่ผ่านมา
· สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ได้ขึ้นกล่าวถ้อยแถลงในการเดินทางรัสเซียเมื่อวานนี้ โดยเนื้อหาของถ้อยแถลง กล่าวถึงภาวะเศรษฐกิจของจีนที่ยังแข็งแกร่งและสามารถรองรับปัจจัยเสี่ยงต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ไม่ได้มีการกล่าวถึงสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯแต่อย่างใด
· ผลสำรวจแสดงให้เห็นว่า ข้อมูล PMI ภาคบริการของญี่ปุ่นประจำเดือนพ.ค. ออกมาลดลงมาที่ระดับ 51.7 จากเดิมที่ระดับ 51.8 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการขยายตัวในอัตราที่ช้าลงเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้า เนื่องจากอัตราการสร้างงานลดลงและภาคธุรกิจมีมุมมองที่แย่ลงต่ออนาคต
· ราคาน้ำมันดิบปิดบวก ตามการฟื้นตัวของตลาดหุ้นทั่วโลกที่ตอบรับกับถ้อยแถลงของประธานเฟดที่ดูจะหนุนมุมมองการปรับลดดอกเบี้ย ในขณะที่น้ำมันดิบ Brent รีบาวน์กลับจากระดับต่ำสุดรอบ 4 เดือนที่ทำไว้ช่วงต้นสัปดาห์และปิด+1.1% หรือปรับขึ้น 69 เซนต์ ที่ระดับ 61.97 เหรียญ/บาร์เรล โดยช่วงต้นตลาดทำ Low สุดตั้งแต่ม.ค. ที่ 60.21 เหรียญ/บาร์เรล
น้ำมันดิบ WTI ปิดปรับขึ้น 23 เซนต์ ที่ระดับ 53.48 เหรียญ/บาร์เรล โดยรีบาวน์กลับจากต่ำสุดที่ 52.43 เหรียญ/บาร์เรล