MTS Help Center

· นักวิเคราะห์จาก DailyFX ระบุว่า ราคาทองคำทางเทคนิคหากยังปิดสูงกว่าแนวต้าน 1,323.40 - 1,326.3 เหรียญไปได้ มีโอกาสเห็นทองคำกลับทดสอบจุดสูงสุดเดิมช่วงปลายเดือนก.พ. บริเวณ 1,346.75 เหรียญได้ ขณะที่แนวรับด้านล่างจะอยู่ที่ 1,309.12 และ 1,303.7 เหรียญ ซึ่งหากหลุดต่ำกว่าระดับดังกล่าวมีโอกาสเห็นราคาดิ่งลงกลับทดสอบแนวรับสำคัญ 1,275.98 เหรียญได้

· นักวิเคราะห์จาก FX Street ระบุว่า ราคาทองคำมีการ Breakout ออกจากกรอบในตลาดเอเชีย และทำให้ราคามีการขยับใกล้ระดับสูงสุดรอบ 3 เดือนครึ่ง ที่บริเวณ 1,335 เหรียญ โดยตลาดทองมี ปัจจัยที่ยังคงทำให้ทองคำน่าสนใจและน่าเข้าซื้ออยู่ นั่นคือ กระแสที่เพิ่มขึ้นว่าเฟดจะตัดสินใจปรับลดดอกเบี้ยจากการเผชิญกับความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน

· รายงานจาก Forex Live ระบุว่า ราคาทองคำมีโอกาสกลับทดสอบระดับสูงสุดของปี โดยราคาดูจะได้รับอานิสงส์เชิงบวกการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์ที่ดูจะเริ่มทำให้เกิดเม็ดเงินไหลเข้าสู่สินทรัพย์ปลอดภัยอีกครั้ง ท่ามกลางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรทั่วโลกที่อ่อนตัวลง จึงจะเห็นได้ถึงการที่ราคาสามารถยืนเหนือแนวต้านเดิมบริเวณ 1,326 เหรียญ

และหาก Break ระดับดังกล่าวไปได้จะยิ่งยืนยันถึงภาวะขาขึ้น มีโอกาสเห็นทองคำกลับทดสอบจุดสูงสุดเดิมของปีที่ 1,346.8 เหรียญ และนั่นอาจเป็นระดับสำคัญต่อไปของทองคำ

· นักวิเคระาห์จาก ABN AMRO สะท้อนถึงความเชื่อที่แข็งแกร่งของพวกเขาว่าเห็ฯราคาทองคำปรับตัวขึ้นได้ต่อ จากการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์ และอุปสงค์ในสินทรัพย์ปลอดภัยที่เพิ่มสูงขึ้น และยังคงเป็นปัจจัยที่ส่งผลเชิงบวกต่อแนวโน้มราคาทองคำ

ทั้งนี้ ราคาทองคำสามารถยืนและปิดได้เหนือ ระดับเส้นค่าเฉลี่ย MA ราย 200 วัน และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯที่ปรับสูงขึ้น ขณะที่ภาพทางเทคนิคยังสะท้อนว่าจะเห็นทองคำปรับตัวขึ้นได้ต่อในปีนี้ โดยช่วงสิ้นปีจะมีระดับราคาเป้าหมายที่ 1,400 เหรียญ

สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาคือการที่ความตึงเครียดทางการค้าที่ดูจะส่งผลให้บรรดาธนาคารกลางลดท่าทีคุมเข้มทางการเงินไปทั่วโลก และมีโอกาสที่จะเห็นการปรับลดดอกเบี้ยมากกว่า พร้อมกันนี้เฟดถูกคาดว่าน่าจะทำการปรับลดดอกเบี้ยลงไปประมาณ 0.75% ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2020 ทางด้านอีซีบีน่าจะมีการเริ่มกลับมาใช้ QE อีกครั้ง และหลายๆประเทศอาจลดท่าทีคุมเข้มทางการเงิน โดยจะเริ่มเลื่อนการขึ้นดอกเบี้ยหรือแม้แต่การปรับลดดอกเบี้ย

สำหรับสภาวะการผ่อนคลายทางการเงินที่มากขึ้นดูจะเป็นปัจจัยบวกต่อทองคำ เท่ามกลางอัตราผลตอบแทนระหว่างค่าเงินกับทองคำนั้นปรับตัวลง จึงทำให้ทองคำดูจะถูกเข้าซื้อในฐานะ Safe-Haven มากขึ้นนั่นเอง

ด้านดอลลาร์อ่อนค่าลง ท่ามกลางสภาวะ Risk-Off ในปัจจุบัน อันเนื่องจากความกังวลในตลาดการเงินและความไม่แน่นอนจากการดำเนินนโยบายของนายทรัมป์ต่อประเ็นทางการค้า และดัชนีดอลลาร์มีแนวโน้มจะอ่อนค่าได้ต่อในระยะยาว ทางด้านจีนน่าจะมีการเพิ่มนโยบายการะตุ้นเศรษฐกิจตามมา