• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 7 มิถุนายน 2562

    7 มิถุนายน 2562 | Economic News


· รายงานจาก Financial Times ระบุว่า ถ้อยแถลงของนายมาริโอ ดรากี้ ประธานอีซีบีที่ได้ช่วยหนุนค่าเงินยูโรให้กลับมาแข็งค่าขึ้น โดยประธานอีซีบีตระหนักดีถึงความเสี่ยงทางเศรษฐกิจยูโรโซนแต่ก็ยังมีความเชื่อมั่นว่าจะรับมือกับผลกระทบดังกล่าวได้



ทั้งนี้ นายดรากี้ ระบุว่า ความไม่แน่นอนของปัจจัยทางภูมิศาสตร์การเมือง, ภัยคุกคามจากสงครามการค้า และความเปราะบางของตลาดเกิดใหม่ ได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของยูโรโซน ซึ่งอีซีบีมีความมุ่งมั่นที่จะออกมาตรการเพื่อรับมือกับปัจจัยดังกล่าว และในเวลาเดียวกันจะเห็นได้ถึงการจ้างงานและค่าแรงที่ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องภายใต้ความยืดหยุ่นของเศรษฐกิจในยูโรโซน ประกอบกับเงินเฟ้อมีการปรับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป




· ขณะที่การประชุมอีซีบีเมื่อวานนี้มีมติคงดอกเบี้ยในระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ และอีซีบีจะคงระดับดอกเบี้ยดังกล่าวไปจนถึงอย่างน้อยช่วงกลางปี 2020 (คงอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ 0%, ดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารพาณิชย์ที่ฝากไว้กับอีซีบี -0.4% และดอกเบี้ยเงินกู้คงที่ระดับ 0.25%)



อย่างไรก็ดี อีซีบีมีการเปิดเผยคาดการณ์เศรษฐกิจครั้งใหม่ โดยมีการปรับเพิ่มจีดีพีปีนี้ 0.1% สู่คาดการณ์ใหม่ที่ 1.2% แต่ในปีหน้าปรับลดคาดการณ์ลง 0.2% สู่ระดับ 1.4% ขณะที่ตัวเลขเงินเฟ้ออีซีบีมีการปรับเพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 1.3% จากเดิมที่ 1.2% ส่วนปีหน้าคาดเงินเฟ้อจะขยายตัวได้ 1.4% ลดลงจากคาดการณ์เดิมที่ 1.5%



พร้อมกันนี้ นายดรากี้ ยืนยันอีกว่า เศรษฐกิจยูโรโซนจะไม่ประสบกับภาวะเงินฝืด และมีโอกาสเล็กน้อยที่จะเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย



· ค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าขึ้นหลังอีซีบีไม่ได้กล่าวย้ำถึงโอกาสที่จะทำการปรับลดดอกเบี้ย และสวนทางกับที่กลุ่มนักลงทุนคาดหวังจะเห็นอีซีบีใช้นโยบายผ่อนคลายที่มากขึ้น จากมุมมองทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอของยูโรโซน และการแข็งค่าขึ้นของค่าเงินยูโร ได้กดดันให้ดอลลาร์มีการอ่อนค่า โดยเมื่อวานนี้ยูโรปิด +0.5% ที่ระดับ 1.1273 ดอลลาร์/ยูโร หลังไปทำระดับสูงสุดรอบ 1 เดือนครึ่งที่ 1.1307 ดอลลาร์/ยูโรในช่วงต้นสัปดาห์



· นักวิเคราะห์จาก TD Securities กล่าวว่า ผลประชุมไม่ได้มีท่าทีผ่อนคลายมากขึ้นอย่างที่พวกเราคาดการณ์กันไว้ แต่ตลาดตอบรับกับการที่สมาชิกอีซีบีมีสัญญาณชี้นำมากขึ้น พร้อมเผยถึง TLTRO หรือการปล่อยสินเชื่อให้แก่ธนาคารพาณิชย์ของยูโรโซน



ทั้งนี้ อีซีบีอาจปล่อยเงินกู้ให้ธนาคารด้วยอัตรา 0.1% สูงกว่าระดับเงินฝากที่อยู่ระดับ -0.4% สำหรับเป้าหมายระยะยาวครั้งใหม่สำหรับโครงการ TLTRO



· ตลาดการเงินมองโอกาส 45% ที่จะเห็นอีซีบีปรับลดดอกเบี้ย 0.1% ในสิ้นปีนี้ จากคาดการณ์ก่อนทราบผลประชุมที่มองโอกาส 75%



อย่างไรก็ดี อีซีบีมีความพยายามที่จะสนับสนุนเศรษฐกิจของยูโรโซน แต่การประชุมวาระนี้ก็ไม่ได้มีสัญญาณว่าจะดำเนินการมากขึ้นอย่างไรในช่วงปลายปีนี้ ท่ามกลางภาวะตึงเครียดจากสงครามการค้าที่ดูจะทำให้อีซีบีจะต้องเดินหน้านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่อ



· ค่าเงินเยนปรับแข็งค่ามากที่สุดในรอบ 5 เดือน หลังยังปราศจากความคืบหน้าในการเจรจาหาข้อตกลงร่วมกันระหว่างสหรัฐฯ-เม็กซิโก ที่ดูจะบั่นทอนความเชื่อมั่นต่อสินทรัพย์เสี่ยง และทำให้นักลงทุนเลือกถือ Safe-Haven โดยเยนแข็งค่าลงมา 0.3% ที่ 108.07 เยน/ดอลลาร์ ปิดระดับแข็งค่าที่สุดตั้งแต่ 10 ม.ค.



· ค่าเงินเปโซของเม็กซิโกอ่อนค่าลงจากความกังวลที่เพิ่มขึ้นหลังสถาบันจัดอันดับ Fitch Ratings ทำการปรับลดความน่าเชื่อถือในตราสารหนี้ลงสู่อันดับ BBB จาก BBB+



· ด้านดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลงมาทำ Low สุดรอบ 2 เดือนช่วงกลางสัปดาห์ที่ 96.749 จุด ท่ามกลางผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯที่ดิ่งลงทำต่ำสุดรอบ 21 เดือน จากกลุ่มนักลงทุนที่ลดการเข้าถือสินทรัพย์เสี่ยง และมุมมองความเป็นไปได้ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย

· เครื่องมือ FedWatch ของ CME ล่าสุด แสดงให้เห็นว่า บรรดาเหล่าเทรดเดอร์ประเมินว่ามีโอกาสสูงกว่า 90% ที่จะเห็นเฟดตัดสินใจปรับลดดอกเบี้ยในเดือนก.ย. ขณะที่ 60% มองความเป็นไปได้ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยถึง 3 ครั้งในปีนี้ ซึ่งพวกเขาต่างคาดหวังว่าการผ่อนคลายทางการเงินของเฟดจะเกิดขึ้นเพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบเชิงลบทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ท่ามกลางสงครามการค้ากับจีนและเม็กซิโก

· กระทรวงพาณิชย์จีนยังคงท่าทีไม่ยอมอ่อนข้อต่อการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ โดยล่าสุด เปิดเผยว่า รายชื่อ “ผู้ประกอบต่างชาติที่ไม่น่าไว้วางใจ” ที่กำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ จะไม่ครอบคลุมเฉพาะอุตสาหกรรมเดียวเท่านั้น ซึ่งทางกระทรวงยังอยู่ในระหว่างการพิจารณา และจะเปิดเผยรายชื่อในอนาคตอันใกล้นี้

· นายทิม อดัมส์ อดีตรองรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยแห่งสหรัฐฯ มีมุมมองว่า กระแสต่อต้านจีนในสหรัฐฯเริ่มที่จะรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ และทางรัฐบาลจีนก็ไม่ควรประมาทกระแสดังกล่าว


“กระแสดังกล่าวหลงคิดไปเองว่า พวกเขาเข้าใจ Mindset ของชาวจีนเป็นอย่างดี และเชื่อว่าสหรัฐฯจะสามารถโน้มน้าวนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ให้คล้อยตามความคิดของสหรัฐฯได้ แต่บางที ก็อาจจะไม่ตระหนักว่าในประเทศจีนเองก็มีกระแสต่อต้านสหรัฐฯเช่นกัน”

· รายงานจาก CNN ระบุว่า บริษัท Huawei ของจีนมีการลงนามข้อตกลงสร้างโครงข่าย 5G กับทางรัสเซียเป็นที่แรกกับบริษัทยักษ์ใหญ่ของรัสเซียอย่าง MTS โดยเป็นการลงนามร่วมกันระหว่าง นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน และนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ในการพบกันที่ประเทศรัสเซีย และความเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจช่วยบรรเทาภาวะตึงเครียดให้กับบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีนรายนี้ ในยามที่สหรัฐและประเทศตะวันตกหลายประเทศ ได้ประกาศแบนอุปกรณ์ 5G ของ Huawei โดยอ้างถึงเรื่องความเสี่ยงต่อความมั่นคงของประเทศ

MTS เปิดเผยว่า ทั้งสองบริษัทจะร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยี 5G และเริ่มใช้งานเครือข่าย 5G นำร่องในปี 2019 และ 2020

· ผู้อำนวยการสถาบันจัดอันดับ Fitch Ratings แสดงความเป็นกังวลต่อภาวะสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่อาจจะยังไม่สามารถหาทางแก้ไขร่วมกันได้ในเร็วๆนี้ และจะยิ่งสร้างความเสี่ยงเพิ่มขึ้นต่อระบบการจัดการทางเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ รวมทั้งทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าวด้วย

· ราคาน้ำมันดิบปิดปรับขึ้นไปกว่า 2% หลังจากที่ร่วงลงไปทำระดับต่ำสุดรอบเกือบ 5 เดือน จากรายงานที่ว่าสหรัฐฯอาจเลื่อนการขึ้นภาษีเม็กซิโกออกไป

ทั้งนี้ น้ำมันดิบ Brent ปิดปรับขึ้น 1.04 เหรียญ หรือ +1.7% ที่ระดับ 61.67 เหรียญ/บาร์เรล ทางด้านน้ำมันดิบ WTI ปิดปรับขึ้น 91 เซนต์ หรือ +1.8% ที่ระดับ 52.59 เหรียญ/บาร์เรล



โดยหุ้นสหรัฐฯ และราคาน้ำมันดิบต่างปิดปรับขึ้นได้ หลังจากที่รายงานของ Bloomberg ระบุว่า สหรัฐฯกำลังมีการพิจารณาจะเลื่อนการขึ้นภาษีเม็กซิโกออกไปก่อน




บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com