· ราคาทองคำปรับตัวขึ้นกว่า 1% ในคืนวันศุกร์หลังไปทำระดับสูงสุดตั้งแต่เม.ย. ปี 2018 ที่ระดับ 1,348.08 เหรียญ ก่อนจะปิดแดนบวกประมาณ 0.6% ที่ระดับ 1,343.07 เหรียญ ขณะที่สัญญาทองคำส่งมอบเดือนส.ค.ปิดปรับขึ้น 3.4 เหรียญ ที่ 1,346.1 เหรียญ ท่ามกลางภาวการณ์ชะลอตัวของการเติบโตในภาคแรงงาน ที่ส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่า ประกอบกับกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยปีนี้
· ราคาทองคำยังได้รับอานิสงส์จากความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าสหรัฐฯ-เม็กซิโก และสหรัฐฯกับจีนที่จะเป็นสาเหตุบั่นทอนเศรษฐกิจโลก โดยภาพรวมราคาทองคำปรับขึ้นไปประมาณ 3% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ภาพรวมรายสัปดาห์เป็นสัปดาห์ที่ดีที่สุดตั้งแต่เม.ย. ปี 2016
· ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของรัฐบาลสหรัฐฯในคืนวันศุกร์ประจำเดือนพ.ค. ส่งสัญญาณชะลอตัว โดยมีการจ้างงานน้อยกว่าที่คาด
· นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Kitco กล่าวว่า จำนวนการจ้างงานสหรัฐฯที่ออกมาแย่กว่าที่คาดได้ช่วยสนับสนุนทองคำ และทำให้ภาพทางเทคนิคมีแนวโน้มเชิงบวกมากยิ่งขึ้น ประกอบกับโอกาสที่เพิ่มขึ้นว่าจะเห็นเฟดลดดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาด ก็ยิ่งเป็นปัจจัยที่เสริมให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น
· บรรดาเหล่าเทรดเดอร์ มองว่า อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของเฟดมีโอกาสมากขึ้นและน่าจะเห็นเฟดทำการปรับลดดอกเบี้ยเร็วสุดในช่วงเดือนก.ค.นี้ โดยมีโอกาสเห็นเฟดปรับลดดอกเบี้ยมากถึง 2 ครั้งก่อนถึงช่วงสิ้นปี
· ถ้อยแถลงของ นายจอห์น วิลเลียม ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก ที่ตระหนักถึงผลกระทบจาก Trade War และการขยายตัวทางเศรษฐกิจโลกดูจะเป็นผลกระทบเชิงลบต่อการลงทุนในภาคธุรกิจ
· สำหรับทีมบริหารของนายทรัมป์เมื่อวันศุกร์ระงับแผนการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าเม็กซิโกอีก 5% หลังจากที่ทั้งสองประเทศมีการเจรจากันเป็นวันที่ 3 ในวันศุกร์ที่ผ่านมาและสามารถทำข้อตกลงเกี่ยวกับการยกระดับความพยายามยับยั้งพวกผู้อพยพจากอเมริกากลางที่ไหลบ่ามุ่งหาชายแดนของสหรัฐฯ
· กองทุน SPDR เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทำการเทขายทองคำ 1.17 ตัน โดยปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 756.42 ตัน
· ราคาซิลเวอร์ปิด +1.3% ที่ 15.04 เหรียญ ซึ่งถือเป็นระดับสัปดาห์ที่ดีที่สุดตั้งแต่ช่วงปลายเดือนธ.ค. ทางด้านราคาแพลทินัมปิด +0.2% ที่ 805 เหรียญ ซึ่งถือเป็นการปิดแดนบวกครั้งแรกในรอบ 7 สัปดาห์ และราคาพลาเดียมปิด +0.6% ที่ 1,359.16 เหรียญ