MTS Help Center

· ราคาทองคำปรับสูงขึ้น ท่ามกลางปริมาณอุปสงค์ในสินทรัพย์ปลอดภัยที่แข็งแกร่ง ซึ่งเกิดจากกระแสคาดการณ์ว่าเฟดจะทำการปรับลดดอกเบี้ย ซึ่งเป็นผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อที่ยังอ่อนแอของสหรัฐฯ และสงครามการค้าระหว่งาสหรัฐฯ-จีน

ราคาทองคำปรับสูงขึ้น 0.3% แถว 1,337.41 เหรียญ ขณะที่ราคาสัญญาทองคำปรับสูงขึ้น 0.3% แถว 1,341.40 เหรียญ

· นักวิเคราะห์จาก Wing Fung Precious Metals มีมุมมองว่า ราคาทองคำมีแรงหนุนที่แข็งแกร่งแถวระดับ 1,330 เหรียญ ขณะที่ทิศทางของทองคำดูจะเป็นขาขึ้นที่แข็งแกร่ง ท่ามกลางแรงหนุนจากกระแสคาดการณ์เฟดจะปรับลดดอกเบี้ย รวมถึงความกังวลที่มีต่อสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน

· การประกาศดัชนี CPI เดือน พ.ค. ของสหรัฐฯ เมื่อคืนที่ผ่านมา พบว่าดัชนีออกมาขยายตัวได้เพียงเล็กน้อย บ่งชี้ถึงภาวะเงินเฟ้อที่ขยายตัวได้อย่างอ่อนแอ ประกอบกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ จึงยิ่งกดดันให้เฟดพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้

ทั้งนี้ เฟดจะมีการประชุมในวันที่ 18-19 มิ.ย. ที่จะถึงนี้ ท่ามกลางเศรษฐกิจที่เผชิญแรงกดดันจากสงครามการค้า การเติบโตที่ชะลอตัวลง และการจ้างงานที่ประกาศออกมาน่าผิดหวัง ตลาดจึงคาดว่าเฟดน่าจะมีการปรับลดดอกเบี้ยอย่างน้อย2 ครั้งภายในปี 2019

· ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.1% หลังจากปรับแข็งค่าขึ้นได้ 0.3% เมื่อคืนนี้

· ทางด้านประเด็นทางการค้า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า เขามี “ความรู้สึก” ว่าสหรัฐฯและจีนจะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าได้ แต่ยังคงยืนยันถึงการขึ้นภาษีอีกรอบ หากไม่สามารถหาข้อตกลงร่วมกันได้

อย่างไรก็ตาม นายทรัมป์ปฏิเสธที่จะกำหนดเดดไลน์ของการประกาซขึ้นภาษีจีนเป็นมูลค่าอีก 3.25 แสนล้านเหรียญ พร้อมระบุว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯและจีน กำลังถูก “ทดสอบ” หลังจากที่จีนไม่ให้ความร่วมดำเนินการตามข้อตกลงทางการค้า

· กองทุน SPDR ลดการถือครองทองคำลง 0.5% สู่ระดับ 759.70 ตัน จาก 756.18 ตัน ในคืนที่ผ่านมา

· นักวิเคราะห์จาก Reuters มีมุมมองว่า ราคาทองคำจะขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1,339 เหรียญอีกครั้ง หากสามารถยืนเหนือขึ้นไปได้ จะมีโอกาสขึ้นไปถึง 1,346 เหรียญ

· นายพอล ทูดอร์ โจนส์ มหาเศรษฐีพันล้านและผู้ก่อตั้ง Tudor Investment Corp. มีมุมมองว่า ทองคำจะเป็นสินค้าที่ตลาดให้ความสนใจมากที่สุดในช่วง 12 – 24 เดือนข้างหน้า และราคาจะมีโอกาสปรับขึ้นไปถึงระดับ 1,700 เหรียญอย่างรวดเร็ว หากราคาสามารถยืนเหนือระดับ 1,400 เหรียญได้ก่อน

โดยเขามองว่า ราคาทองคำจะได้รับแรงหนุนมาจากประเด็นความตึงเครยีดในสงครามการค้า ที่กำลังทำลายพื้นฐานทางเศรษฐกิจ และยังคงยืดเยื้อต่อไปโดยไม่มีท่าทีจะจบลง อีกทั้งการขึ้นที่ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเป็นมูลค่า 3 แสนล้านเหรียญ จะเป็นปัจจัยที่ผลักดันให้เศรษฐกิจสหรัฐฯเข้าสู่ภาวะชะลอตัวเสียเอง

· นักวิเคราะห์จาก FX Street ระบุว่า ราคาทองคำปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดรายวันใกล้ระดับ 1,337 เหรียญ หลังสื่อในประเทศจีนรายงานถ้อยแถลงของรองประธาน Renmin University ที่กล่าวแสดงความกังวลว่า สงครามการค้าอาจยืดเยื้อและเลวร้ายลง

สำหรับภาพทางเทคนิคของราคาทองคำ นักวิเคราะห์มองว่า ราคาต้องขขึ้นเหนือระดับ 1,342 เหรียญให้ได้ก่อน ถึงจะมีโอกาสขึ้นไปต่อถึงระดับ 1,348 เหรียญ ขณะที่ราคาจะมีแนวรับสำคัญที่ระดับ 1,320 เหรียญ ที่น่าจะรองรับการร่วงลงของราคาได้อย่างแข็งแกร่ง ถ้าหากหลุดลงมา ก็จะมีแนวรับถัดไประดับ 1,310 เหรียญ

· ด้านราคาซิลเวอร์ปรับสูงขึ้น 0.6% แถว 14.82 เหรียญ และราคาแพลทินั่มปรับสูงขึ้น 0.6% แถว 813.30 เหรียญ

· ราคาพลาเดียมปรับสูงขึ้น 0.4% แถว 1,411.90 เหรียญ หลังทำระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 เดือน ที่ระดับ 1,415.96 เหรียญในช่วงก่อนหน้า