MTS Help Center

· ราคาทองคำปรับตัวลงกว่า 1% โดยปรับลงจากระดับสูงสุดรอบ 6 ปีที่ทำไว้เมื่อวันอังคาร ขณะที่ถ้อยแถลงสมาชิกเฟดดูจะบั่นทอนโอกาสการลดดอกเบี้ยด้วยท่าทีที่แข็งกร้าวมากขึ้น ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่เริ่มมีการ Lock Profit ในตลาด หรือปิดสถานะทำกำไรในช่วงที่ราคาปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง

ราคาทองคำตลาดโลกปรับลง 1.2% ที่ 1,405.6 เหรียญ โดยเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 7 วันทำการ โดยเมื่อวันอังคารก็มีการทำ High แถว 1,438.63 เหรียญ ซึ่งเป็นสูงสุดตั้งแต่ 14 พ.ค. ขณะที่สัญญาทองคำส่งมอบเดือนส.ค. ปรับลง 0.4% ที่ 1,413.3 เหรียญ

· นักวิเคราะห์จาก SPI Asset Management กล่าวว่า การปรับตัวลงของตลาดเป็นไปในระยะสั้นๆ โดยเป็นผลมาจากถ้อยแถลงของเฟด ประกอบกับการปรับตัวขึ้นมาหลายวันติดของทองคำจึงทำให้มีการปรับลดสถานะลงมาบ้าง

· หัวหน้านักกลยุทธ์จาก Singapore's United Overseas Bank กล่าวว่า ราคาทองคำที่ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งตลอดเดือนนี้ มีการเผชิญภาวะแรงเทขายทำกำไรเข้ามาบ้างในระยะสั้นๆตามคาด ขณะที่ดัชนีดอลลาร์มีการปรับแข็งค่าขึ้น 0.2% ยกตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดรอบหลายเดือน โดยเราน่าจะยังไม่เห็นการเข้าซื้อครั้งใหญ่ในสัปดาห์นี้ก่อนจะเห็นผู้นำสองประเทศก้าวเข้าสู่การเจรจา โดยทองอาจมีการปรับย่อลงมาต่ำกว่า 1,400 เหรียญได้ และอาจฟื้นตัวต่อเนื่องหลังจากที่ทราบผลเจรจาของ G20

· รายงานจาก CNBC ระบุว่า ทางสหรัฐฯมีการคาดหวังว่าจะกลับมาเจรจาทางการค้ากับจีนได้อีกครั้ง หลังจากที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนกลับมาพบกันในการประชุม G20 วันเสาร์นี้

· นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจากรอยเตอร์ส มองว่า ทองคำอาจกลับทดสอบแนวรับ 1,404 เหรียญ แต่หากหลุดลงมามีโอกาสกลับลงมาแตะ 1,387 เหรียญได้

· นักวิเคราะห์จาก Goldman Sachs คาดการณ์ราคาทองคำไว้ว่า ในช่วง 3 เดือน จะมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 1,450 เหรียญ โดยปรับขึ้นจากคาดการณ์เดิมที่ 1,350 เหรียญ และในช่ง 6 เดือนจะมีราคาเฉลี่ย 1,475 เหรียญ (เดิม 1,350 เหรียญ) และ 1 ปี จะมีราคาทองเฉลี่ยบริเวณ 1,475 เช่นกัน เดิมคาดไว้ที่ 1,425 เหรียญ

เหตุผลสำคัญ คือการที่ราคายังได้รับแรงหนุนจากการเข้าซื้อทองคำของบรรดาธนาคารกลาง และคาดว่าจะเห็นทองคำถูกเข้าซื้อสูงกว่า 100 ตันได้ในช่วงสิ้นปีนี้ และการปรับลดดอกเบี้ยก็ดูจะเป็นปัจจัยสนับสนุนราคาทองคำตามมา โดยเศรษฐกิจโลกจะค่อยๆฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ได้ และการค่อยๆปรับเพิ่มขึ้นจากประเด็นดังกล่าวก็ดูจะส่่งผลให้นักลงทุนกังวลที่จะเลือกถืองคำได้ โดยที่ตลาดเกิดใหม่ก็ดูจีดีพีจะค่อยๆมีการเติบโต

ในเชิงเทคนิค ราคาทองคำยังเป็นขาขึ้น โดยที่มีการอ่อนตัวของเส้น DM หรือ Portfolio Diversification ซึ่งหากเส้น DM ขยายตัวได้อีกครั้ง ซึ่งคาดว่าเราน่าจะเห็นเหตุการณ์วนซ้ำดังที่เคยเกิดในปี 2016 ที่ ETF มีการเข้าซื้อทองกว่า 800 ตันในระหว่างเดือนม.ค. - ก.ย. ของปีดังกล่าว ถ้าทองคำเคลื่อนไหวแบบนี้ได้ก็มีโอกาสเห็นทองคำไปเหนือ 1,600 เหรีย

· ราคาซิลเวอร์ปรับลง 1.1% ที่ 15.2 เหรียญ และราคาพลาเดียมปรับลง 0.2% ที่ 1,525.44 เหรียญ ทางด้านราคาแพลทินัมปรับลง 0.5% ที่ 801.62 เหรียญ