MTS Help Center

· ค่าเงินดอลลาร์ทรงตัวเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่ ท่ามกลางเหล่าเทรดเดอร์ที่กลับมาพูดถึงเฟดที่ดูจะเข้มงวดต่อแนวทางการปรับลดดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมสัปดาห์หน้า หลังจากที่เจ้าหน้าที่เฟดสองรายดูจะไม่ได้การันตีต่อการปรับลดดอกเบี้ยในเวลานี้




ค่าเงินดอลลาร์และค่าเงินยูโรมีการปรับแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินเยน หลังจากที่ นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ กล่าวกับสำนักข่าว CNBC โดยระบุว่า ข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนมีความคืบหน้าไปกว่า 90% ที่ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์ และถ้อยแถลงของเขาก็ดูจะกลับมาเริ่มแสดงให้เห็นว่าในช่วงที่ผ่านมาที่สหรัฐฯและจีนมีการเจรจากันนั้นเกิดความคืบหน้ามากน้อยเพียงใด



บรรดาเทรดเดอร์กำลังมีการประเมินกันว่า นายทรัมป์ และนายสี อาจทำให้เกิดการบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างสองประเทศได้ ด้วยการทำให้การเจรจากลับมาอีกครั้งในการพบกันที่ประชุม G20 เพื่อหลีกเลี่ยงการเพิ่มภาษีสินค้านำเข้าระหว่างกันของทั้ง 2 ประเทศ



นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวกับสำนักข่าว Fox Business Network โดยระบุว่า เขาอาจขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนได้หากว่าเขาไม่สามารถตกลงกับนายสีได้



ค่าเงินเยนอ่อนค่า 0.57% ที่ 107.79 เยน/ดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินยูโรทรงตัวแถว 1.1372 ดอลลาร์/ยูโร



ดัชนีดอลลาร์ปรับขึ้น 0.09% และทรงตัวได้เหนือระดับต่ำสุดรอบ 3 เดือน จากถ้อยแถลงของประธานเฟดและประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ ที่ดูเหมือนเฟดจะไม่ทำการปรับลดดอกเบี้ยลงไปมากถึง 0.5% ในการประชุมระหว่าง 30-31 ก.ค.



· เครื่องมือ FedWatch ของ CME Group ล่าสุด สะท้อนว่ากลุ่มนักลงทุนมองโอกาส 24% จากก่อนหน้าที่ประเมินไว้ที่ 30% ที่จะเห็นเฟดลดดอกเบี้ยที่ระดับ 0.5%



· ด้านราคาบิทคอยน์ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องและปรับขึ้นไปแล้วกว่า 16.26% ซึ่งเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ม.ค.ปี 2018



รายงานจากรอยเตอร์ส ระบุว่า บิทคอยน์ปรับตัวขึ้นไปมากที่สุดในรอบ 18 เดือน ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่มองหาความปลอดภัยด้านการลงทุนท่ามกลางความตึงเครียดทางการเมืองที่เกิดขึ้น ประกอบกับตลาดรับข่าวที่ว่าบริษัท Facebook มีการประกาศจะผลักดันค่าเงิน Libra หรือการคิดค้นค่าเงินของบริษัท Facebook มาใช้เป็นระบบชำระเงินหลักของคนทั่วโลก โดยบิทคอยน์ล่าสุดปรับตัวขึ้นมากนับตั้งแต่เดือนเม.ย.ที่ผ่านมา และไปทำระดับสูงสุดที่ 13,666.02 เหรียญ สำหรับตลาด Bitstamp Exchange ถือว่าเป็นการปรับตัวขึ้นที่มากที่สุดตั้งแต่ม.ค. ปี 2018 และในปีนี้ บิทคอยน์ ปรับตัวขึ้นไปแล้วกว่า 260% แม้ว่าจะอยู่ต่ำกว่าระดับ 20,000 เหรียญ ที่ทำ All-Time High ไว้ในเดือนธ.ค. ปี 2017 ก็ตาม และล่าสุดบิทคอยน์ปิด +14.7% ที่ 13,475 เหรียญ



· นายโดนัลด์ ทรัมป ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า ความเป็นไปได้ของข้อตกลงทางการค้ากับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสหรัฐฯอาจเกิดขึ้นได้ในสัปดาห์นี้ แต่เขาก็มีการเตรียมจะขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนทั้งหมดหากทั้งสองประเทศยังไม่ลงรอยกัน



นอกจากนี้ นายทรัมป์ยังมองว่ามีความเป็นไปได้มากขึ้นที่จะเกิดขึ้นตกลงการค้ากับจีน และหากเกิดขึ้นจริงก็อาจมีการประกาศปรับลดภาษีสินค้านำเข้าจากจีนลง 10% ที่ระดับ 3 แสนล้านเหรียญ แทนที่การจะขึ้นภาษีนำเข้าจีนอีก 25%



· เมื่อวานนี้ นายทรัมป์ ยังมีการกล่าวตำหนิ นายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟดที่ดูจะปฏิบัติหน้าที่ในทางที่แย่ ซึ่งเขาก็สามารถปลดนายเจอโรมออกจากตำแหน่งได้ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะการจัดการกับข้อกฎหมายจะส่งผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ต่อตลาดการเงิน

· นางแมรี่ ดาร์ลี ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก กล่าวว่า ในอีกหลายสัปดาห์ข้างหน้าถือเป็นสัปดาห์สำคัญที่จะแสดงถึงการประเมินโอกาสเกี่ยวกับการปรับลดดอกเบี้ยในช่วงที่แรงกดดันด้านเงินเฟ้ออ่อนตัวและมีความไม่แน่นอนทางด้านนโยบายการค้าของสหรัฐฯ เนื่องจากยังมีความไม่แน่นอนว่าสหรัฐฯและจีนจะสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าร่วมกันได้หรือไม่ ซึ่งอาจส่งผลกับการเติบทางเศรษฐกิจและทำให้เฟดอาจพลาดเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% และความกังวลทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่เฟดกังวล รวมทั้งจะนำไปสู่การปรับลดดอกเบี้ย

· ราคาน้ำมันดิบปิดปรับตัวขึ้นไปกว่า 2% และไปทำระดับสูงสุดของเดือน ท่ามกลางปัจจัยสนับสนุนจากข้อมูลของรัฐบาลสหรัฐฯที่สะท้อนให้เห็นถึงสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯที่ปรับตัวลงกว่าที่คาดการณ์ไว้เป็นประวัติการณ์ โดยน้ำมันดิบ Brent ปิดปรับขึ้น 1.44 เหรียญ หรือ +2.2% ที่ 66.49 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ WTI ปิดปรับขึ้น 1.55 เหรียญ หรือ +2.7% ที่ระดับ 59.38 เหรียญ/บาร์เรล

รายงานจาก EIA เผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลดลงกว่า 12.8 ล้านบาร์เรล ซึ่งถือเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดตั้งแต่ก.ย. ปี 2016 ขณะที่ยอดส่งออกน้ำมันสหรัฐฯปรับตัวลงในสัปดาห์ที่แล้วประมาณ 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน ทำให้ภาพรวมมีการส่งออกน้ำมันเพิ่มขึ้นที่ 3.8 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งสูงกว่าเดิมในเดือนก.พ. ที่มีการส่งออกไปมากถึง 3.6 ล้านบาร์เรล/วัน