· ดัชนีอนุพันธ์ของหุ้นสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้นในคืนที่ผ่านมา หลังสหรัฐฯ-จีนตกลงที่จะระงับการขึ้นภาษีและกลับมาเจรจาการค้ากันอีกครั้ง โดยดัชนีอนุพันธ์ Dow Jones Futures ปรับสูงขึ้น 199 จุด ซึ่งเป็นสัญญาณว่าดัชนีดาวโจนส์มีแนวโน้มเปิดตลาดในแดนบวกได้ประมาณ 194.04 จุดในคืนนี้ ขณะที่ดัชนีอนุพันธ์ S&P 500 และ Nasdaq 100 ต่างปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน
ทั้งนี้ นายทรัมป์ กล่าวถึงการประชุมที่ผ่านมาว่าเป็นไปด้วยดี ที่ส่งสัญญาณถึงการกลับมาเจรจาร่วมกันอีกครั้ง ส่งผลให้เหล่านักลงทุนเริ่มคลายกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับการดำเนินนโยบายเชิงผ่อนคลายการเงินของบรรดาธนาคารกลางลงไป โดยดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 0.5%
· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้นกว่า 2% ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน เนื่องจากความเชื่อมั่นที่ดีขึ้น หลังจากสหรัฐฯและจีนตกลงที่จะเจรจาทางการค้ารอบใหม่ รวมทั้งสหรัฐฯจะผ่อนปรนต่อบริษัทสหรัฐฯที่มีการขายสินค้าจาก Huawei หลังจากที่ถูกจำกัดสิทธิ์ตั้งแต่เดือนพ.ค. จากเหตุความกังวลด้านความมั่นคง
โดยดัชนี Nikkei เพิ่มขึ้น 2.1% ที่ระดับ 21,729.97 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที 7 เดือนพ.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ นักกลยุทธ์ประจำ JPMorgan Asset Management ระบุว่า กรณีทางการค้าดังกล่าวเป็นข่าวเชิงบวกต่อตลาด ขณะที่ประเด็นการผ่อนปรนต่อบริษัท Huawei ได้สร้างความประหลาดใจต่อตลาดเช่นเดียวกัน
· ตลาดหุ้นจีนปิดปรับตัวสูงขึ้นมากที่สุดในรอบกว่า 2 เดือน ท่ามกลางความคาดหวังว่าสงครามทาวการค้าสหรัฐฯและจีนจะยุติลง หลังจากที่ผู้นำทั้งสองประเทศตกลงที่จะเริ่มต้นเจรจาทางการค้าอีกครั้ง และสหรัฐฯ ระบุว่า อาจจะเลื่อนการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน
โดยสหรัฐฯจะผ่อนปรนต่อบริษัทสหรัฐฯที่มีการขายสินค้าจาก Huawei หลังจากที่ถูกจำกัดสิทธิ์ตั้งแต่เดือนพ.ค. จากเหตุความกังวลด้านความมั่นคง ขณะเดียวกันนายทรัมป์ยังเผยว่า จีนจะมีการซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯเพิ่มอีกด้วย ส่งผลให้ดัชนี Shanghai Composite เพิ่มขึ้น 2.22% ที่ระดับ 3,044.90 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา
อ้างอิงสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (บอร์ด EEC) ครั้งที่ 7/2562 ซึ่งมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานได้พิจารณา และรับทราบความคืบหน้าขั้นตอนการดำเนินงานโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)
สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน บอร์ด EEC รับทราบผลการดำเนินงานเพื่อเตรียมการลงนามสัญญาร่วมทุนภายในเดือน ก.ค.62 นี้ ได้แก่ การจัดทำเอกสารแนบท้ายร่างสัญญาร่วมลงทุน เรื่องทางเทคนิค การเงิน และกำหนดรายละเอียดเพื่อตรวจสอบหน้าที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ในฐานะคู่สัญญาฝ่ายรัฐที่ต้องดำเนินการเป็นการเฉพาะ, การเสนอรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติในประเด็นมาตรการป้องกันลดผลกระทบการเดินรถไฟฯ การดำเนินงานศูนย์ร้องเรียน และสอบถามความวิตกกังวลของผู้ได้รับผลกระทบ เป็นต้น, การจัดตั้งหน่วยงานบริหารสัญญาโครงการฯ และการจัดทำแผนส่งมอบพื้นที่