· ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดในแดนบวกเล็กน้อย โดยถูกจำกัดการเคลื่อนไหว หลังจากสหรัฐฯข่มขู่จะขึ้นภาษีสินค้ายุโรปรอบใหม่ จึงไปกดดันมุมมองเชิงบวกที่มีต่อการสงบศึกการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน
โดยดัชนี S&P 500 ปิด +0.3% ที่ระดับ 2,973.01 จุด ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ปิด +69.25 จุด ที่ระดับ 26,786.68 จุด ส่วนดัชนี Nasdaq ปิด +0.2% ที่ 8,109.09 จุด
· ตลาดหุ้นยุโรปปิดแดนบวก ท่ามกลางแรงหนุนจากถ้อยแถลงของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ระบุว่า การเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ “ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว” โดยดัชนี Stoxx 600 ปิด +0.4% นำโดยหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคที่ปรับขึ้นได้ 2% ขณะที่หุ้นกลุ่มน้ำมันปรับลดลง 0.6% เนื่องจากราคาน้ำมันที่ปรับลดลงอย่างมาก
· ตลาดหุ้นเอเชียมีการซื้อขายอย่างระมัดระวัง แม้ว่าดัชนี S&P 500 จะปรับตัวสูงขึ้น แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อคืนนี้ที่ผ่านมาก็ตาม ท่ามกลางความกังวลด้านการค้าโลกที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของเหล่านักลงทุน
โดยเช้านี้ ดัชนี Nikkei ลดลง 0.24% ขณะที่ดัชนี Topix ลดลง 0.54%
· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- นักบริหารการเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ระหว่าง 30.45-30.60 บาท/ดอลลาร์ โดยจับตาประเด็นสงครามการค้า แม้ตลาดจะคลายกังวลกรณีของสหรัฐฯกับจีน แต่ก็มีประเด็นที่สหรัฐฯเล็งเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้ามูลค่า 4 พันล้านเหรียญจากสหภาพยุโรป นอกจากนี้ต้องรอติดตามตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญฯ อื่นๆของสหรัฐฯ เนื่องจากวันพฤหัสบดีสหรัฐฯจะหยุดทำการเนื่องจากตรงกับวันชาติ และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ที่จะประกาศออกมาในคืนวันศุกร์ ตามเวลาประเทศไทย
- สำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) ได้ปรับมุมมองเศรษฐกิจไทยครึ่งหลังปี 62 ต่อเนื่องไปยังปี 63 โดยเดิมเมื่อเดือน ธ.ค.61 สำนักวิจัยฯ มองว่า GDP ปี 62 จะขยายตัว 3.7% ซึ่งเป็นอัตราคาดการณ์ค่อนข้างต่ำ แต่ได้ปรับมุมมองมาอยู่ที่ 3.3% สำหรับปี 62 และ 3.2% สำหรับปี 63 สะท้อนถึงการขยายตัวที่อ่อนแรงลง
- สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) หรือสภาผู้ส่งออก ปรับลดประมาณการส่งออกไทยในปีนี้ลดลงเหลือ -1% จากเดิมที่เคยคาดโต 1% หลังมูลค่าการส่งออกในเดือนพ.ค.62 ยังคงหดตัวต่อเนื่องและผลกระทบจากปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน
- ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) ประจำเดือน ก.ค.62 ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า (ก.ย.62) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 25.50% มาอยู่ที่ 109.44 ซึ่งนับเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบสี่เดือน แต่ยังอยู่ในเกณฑ์ทรงตัว (Neutral) ที่มีค่าช่วงดัชนี 80-119