· ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวสูงขึ้น หลังจากคณะกรรมประจำสหภาพยุโรป เสนอชื่อนางคริสทีน ลาร์การ์ด ประธาน IMF ให้ดำรงตำแหน่งประธาน ECB ต่อจากนายมาริโอ ดรากี้ ประธาน ECB คนปัจจุบันที่จะหมดวาระลงในเดือน ต.ค.
โดยดัชนี Stoxx600 เพิ่มขึ้น 0.3% แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนพ.ค. ด้านหุ้นกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้น 1% ขณะที่หุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซลดลง 0.6% ในช่วงต้นการซื้อขาย
· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลง เนื่องจากความกังวลสงครามทางการค้าครั้งใหม่ระหว่างสหรัฐฯและยุโรป
โดยเกาหลีใต้เป็นเศรษฐกิจที่พึ่งพาทางการค้าเป็นหลัก ล่าสุดได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจ รวมทั้งลดเป้าหมายการส่งออก หลังจากที่ทั่วโลกเผยข้อมูลภาคการผลิตออกมาอ่อนแอ จึงส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นเหล่านักลงทุนเกี่ยวกับการเติบโตของเศรษฐกิจโลก
ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่นลดลง 0.3%
อย่างไรก็ตาม มุมมองเชิงบวกต่อการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาดูเหมือนจะลดลงไปอย่างรวดเร็ว แม้ว่าการขึ้นภาษีจะถูกเลื่อนออกไปก็ตาม แต่นโยบายทางภาษีที่ถูกขึ้นในครั้งก่อนหน้านี้ยังคงมีผลกระทบอยู่ และไม่มีท่าทีที่จะถูกยกเลิกไปอย่างง่ายๆ
· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลง โดยถูกกดดันจากการแข็งค่าของค่าเงินเยนและการเทขายทำกำไรของเหล่านักลงทุน ในหุ้นกลุ่มส่งออกและหุ้นวัฎจักรอื่นๆ ก่อนหน้าวันหยุดประจำชาติสหรัฐฯและการประกาศตัวเลขภาคแรงงานสหรัฐฯในคืนนี้
โดยดัชนี Nikkei ลดลง 0.5% ที่ระดับ 21,638.16 จุด ซึ่งต่ำกว่าระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนเมื่อวานนี้
หัวหน้าการลงทุนประจำ Libra Investments ระบุว่า ตลาดหุ้นร่วงลงอย่างรวดเร็วหลังจากประชุม G20 เมื่อสัปดาห์ก่อน เนื่องจากเหล่านักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับประเด็นทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน
ด้านเหล่าเทรดเดอร์เทขายทำกำไรและชะลอการลงทุนก่อนหน้าวันหยุดสหรัฐฯเนื่องในวัน Independence Day และรอยคอยการประกาศข้อมูลสำคัญภาคแรงงานสหรัฐฯ
ขณะที่ตลาดการเงินสหรัฐฯจะมีการซื้อขายครึ่งวันทำการในวันนี้และจะปิดทำการเต็มวันในวันพรุ่งนี้เนื่องจากวันหยุดดังกล่าว ทั้งนี้ในวันศุกร์ที่จะถึงนี้จะมีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขการจจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯประจำเดือนมื.ย.ที่ผ่านมา
· ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลดลง ท่ามกลางมุมมองเชิงบวกของเหล่านักลงทุนเกี่ยวกับประเด็นความคืบหน้าการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน รวมทั้งข้อมูลภาคบริการของจีนที่ส่งสัญญาณถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจ
ผลสำรวจแสดงให้เห็นว่า ข้อมูลภาคบริการของจีนประจำเดือนมิ.ย.ชะลอตัวลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนเนื่องจากคำสั่งซื้อใหม่จากลูกค้าต่างประเทศลดลง ซึ่งเป็นสัญญาณของความตึงเครียดต่อเศรษฐกิจเนื่องจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ
โดยดัชนี Shanghai Composite ลดลง 0.94% ที่ระดับ 3,015.26 จุด