• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 4 กรกฎาคม 2562

    4 กรกฎาคม 2562 | SET News

· ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวสูงขึ้น หลังจากที่ข้อมูลทางเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาอ่อนแอกว่าที่คาด ส่งผลให้เหล่านักลงทุนคาดว่าเฟดอาจจะทำการปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้

โดยดัชนี Stoxx600 เพิ่มขึ้นเลฌกน้อย 0.1% ด้านหุ้นกลุ่มยานยนต์เพิ่มขึ้น 0.6% ขณะที่หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคลดลง 0.9%

· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้น หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐฯเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อคืนที่ผ่านมา ท่ามกลางข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ออกมาอ่อนแอ จึงช่วยหนุนกระแสคาดการณ์การปรับลดดอกเบี้ยของดฟดในการประชุมเดือนนี้

ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 0.4% แม้ว่าวันนี้ตลาดสหรัฐฯจะปิดทำการเนื่องในวันหยุดประจำชาติ

นักวิเคราะห์ประจำ Simplex Asset Management in Tokyo ระบุว่า ตลาดหุ้นและพันธบัตรปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากตลาดคาดว่าบรรดาธนาคารกลางอย่างเช่น เฟดและอีซีบีจะปรับลดดอกเบี้ย

· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้น หลังจากที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯเพิ่มสูงขึ้นท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดอาจจะเริ่มต้นปรับลดดอกเบี้ย

หลังจากข้อมูลล่าสุดส่งสัญญาณการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ

โดยดัชนี Nikkei เพิ่มขึ้น 0.3% ที่ระดับ 21,702.45 จุด สำหรัลบวันนี้ตลาดการเงินสหรัฐฯปิดทำการเนื่องในวันหยุดประจำชาติ

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ทางเทคนิคอาวุโส ประจำ Mizuho Securities ระบุว่า ตลาดหุ้นญี่ปุ่นได้รับแรงหนุนจากมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับการผ่อนคลายนโยบายทางการเงินของเฟด อย่างไรก็ดี เหล่านักลงทุนยังคงระมัดระวังการลงทุนเกี่ยวกับผลกระทบอาจเกิดขึ้นกับค่าเงินเยนที่ปรับแข็งค่าขึ้น

· ตลาดหุ้นจีนปิดปรับตัวลดลง ซึ่งถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นผู้บริโภค ท่ามกลางเหล่านักลงทุนที่รอคอยการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน โดยดัชนี Shanghai Composite ลดลง 0.3% ที่ระดับ 3,005.25 จุ

นายแลร์รี่ คุดโลว์ หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจสหรัฐฯ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯและจีนจะหารือกันทางโทรศัพท์ในสัปดาห์หน้า เพื่อหาทางคลี่คลายสงครามการค้าระหว่างสองประเทศ

อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน มิ.ย.62 พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 76.4 จาก 77.7 ในเดือนพ.ค. เป็นการปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ต่ำสุดในรอบ 21 เดือน จากความกังวลสถานการณ์การเมืองในประเทศ

สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจโดยรวม อยู่ที่ 63.4 จาก 64.8 ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสในการหางานทำ อยู่ที่ระดับ 72.2 จาก 73.3 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต อยู่ที่ระดับ 93.5 จาก 95.0

ปัจจัยลบที่สำคัญเพิ่มเติม ได้แก่ ปัญหาสงครามการค้าโลก, คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับลดอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจไทย (GDP) ปี 62 เหลือ 3.3% และปรับลดส่งออกเหลือโต 0%, การส่งออกในเดือนพ.ค.หดตัวที่ -5.79%, ผู้บริโภคกังวลเศรษฐกิจฟื้นตัวช้าและกระจุกตัว และราคาพืชผลทางการเกษตรยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ

ขณะที่ปัจจัยบวก ได้แก่ กนง.คงดอกเบี้ยนโยบาย ที่ 1.75%, ราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศปรับตัวลดลง และเงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง

- ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) สรุปภาพรวมภาวะตลาดหลักทรัพย์สำหรับเดือนมิถุนายน 2562 ว่า ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2562 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET Index) ปิดที่ 1,730.34 จุด เพิ่มขึ้น 6.8% จากสิ้นเดือนก่อน ซึ่งสูงเป็นอันดับ 1 ในเอเชีย และปรับเพิ่มขึ้น 10.6% จากสิ้นปี 2561 มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันรวมของ SET และ mai ในเดือนมิถุนายน 2562 อยู่ที่ 60,533 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.1% จากเดือนก่อน โดยผู้ลงทุนต่างประเทศมีสถานะซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ด้วยมูลค่าซื้อสุทธิสูงสุดในภูมิภาค

นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในเดือนมิถุนายน SET Index ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงที่สุดในเอเชีย และมูลค่าซื้อสุทธิของผู้ลงทุนต่างชาติที่สูงที่สุดในเอเชียเป็นผลจากการเมืองภายในประเทศมีความชัดเจนมากขึ้นและมีแนวโน้มว่านโยบายเศรษฐกิจที่สำคัญจะยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับแรงสนับสนุนจากปัจจัยภายนอก ได้แก่ สถานการณ์สงครามการค้าที่มีแนวโน้มผ่อนคลายมากขึ้น การดำเนินนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อย่างค่อยเป็นค่อยไป

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com