ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 0.4% แม้ว่าวันนี้ตลาดสหรัฐฯจะปิดทำการเนื่องในวันหยุดประจำชาติ
นักวิเคราะห์ประจำ Simplex Asset Management in Tokyo ระบุว่า ตลาดหุ้นและพันธบัตรปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากตลาดคาดว่าบรรดาธนาคารกลางอย่างเช่น เฟดและอีซีบีจะปรับลดดอกเบี้ย
· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้น หลังจากที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯเพิ่มสูงขึ้นท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดอาจจะเริ่มต้นปรับลดดอกเบี้ย
หลังจากข้อมูลล่าสุดส่งสัญญาณการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ
โดยดัชนี Nikkei เพิ่มขึ้น 0.3% ที่ระดับ 21,702.45 จุด สำหรัลบวันนี้ตลาดการเงินสหรัฐฯปิดทำการเนื่องในวันหยุดประจำชาติ
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ทางเทคนิคอาวุโส ประจำ Mizuho Securities ระบุว่า ตลาดหุ้นญี่ปุ่นได้รับแรงหนุนจากมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับการผ่อนคลายนโยบายทางการเงินของเฟด อย่างไรก็ดี เหล่านักลงทุนยังคงระมัดระวังการลงทุนเกี่ยวกับผลกระทบอาจเกิดขึ้นกับค่าเงินเยนที่ปรับแข็งค่าขึ้น
· ตลาดหุ้นจีนปิดปรับตัวลดลง ซึ่งถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นผู้บริโภค ท่ามกลางเหล่านักลงทุนที่รอคอยการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน โดยดัชนี Shanghai Composite ลดลง 0.3% ที่ระดับ 3,005.25 จุ
นายแลร์รี่ คุดโลว์ หัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจสหรัฐฯ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯและจีนจะหารือกันทางโทรศัพท์ในสัปดาห์หน้า เพื่อหาทางคลี่คลายสงครามการค้าระหว่างสองประเทศ
อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน มิ.ย.62 พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 76.4 จาก 77.7 ในเดือนพ.ค. เป็นการปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ต่ำสุดในรอบ 21 เดือน จากความกังวลสถานการณ์การเมืองในประเทศ
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจโดยรวม อยู่ที่ 63.4 จาก 64.8 ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสในการหางานทำ อยู่ที่ระดับ 72.2 จาก 73.3 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต อยู่ที่ระดับ 93.5 จาก 95.0
ปัจจัยลบที่สำคัญเพิ่มเติม ได้แก่ ปัญหาสงครามการค้าโลก, คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับลดอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจไทย (GDP) ปี 62 เหลือ 3.3% และปรับลดส่งออกเหลือโต 0%, การส่งออกในเดือนพ.ค.หดตัวที่ -5.79%, ผู้บริโภคกังวลเศรษฐกิจฟื้นตัวช้าและกระจุกตัว และราคาพืชผลทางการเกษตรยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ
ขณะที่ปัจจัยบวก ได้แก่ กนง.คงดอกเบี้ยนโยบาย ที่ 1.75%, ราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศปรับตัวลดลง และเงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง
- ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) สรุปภาพรวมภาวะตลาดหลักทรัพย์สำหรับเดือนมิถุนายน 2562 ว่า ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2562 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET Index) ปิดที่ 1,730.34 จุด เพิ่มขึ้น 6.8% จากสิ้นเดือนก่อน ซึ่งสูงเป็นอันดับ 1 ในเอเชีย และปรับเพิ่มขึ้น 10.6% จากสิ้นปี 2561 มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันรวมของ SET และ mai ในเดือนมิถุนายน 2562 อยู่ที่ 60,533 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.1% จากเดือนก่อน โดยผู้ลงทุนต่างประเทศมีสถานะซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ด้วยมูลค่าซื้อสุทธิสูงสุดในภูมิภาค
นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในเดือนมิถุนายน SET Index ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงที่สุดในเอเชีย และมูลค่าซื้อสุทธิของผู้ลงทุนต่างชาติที่สูงที่สุดในเอเชียเป็นผลจากการเมืองภายในประเทศมีความชัดเจนมากขึ้นและมีแนวโน้มว่านโยบายเศรษฐกิจที่สำคัญจะยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับแรงสนับสนุนจากปัจจัยภายนอก ได้แก่ สถานการณ์สงครามการค้าที่มีแนวโน้มผ่อนคลายมากขึ้น การดำเนินนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อย่างค่อยเป็นค่อยไป