· ราคาทองคำปรับตัวลง 0.2% ที่ระดับ 1,396.56 เหรียญ ขณะที่สัญญาทองคำส่งมอบเดือนส.ค. ปิด 1,400 เหรียญ จากกระแสคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้นว่าเฟดจะไม่เดินหน้าลดดอกเบี้ยอย่างรุนแรงในการประชุมปลายเดือนนี้จึงหนุนให้ดอลลาร์แข็งค่า
· กองทุน SPDR เมื่อวานนี้ ทำการขายทองคำออก 1.17 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 795.80 ตัน
· นักวิเคราะห์จาก INTL FCStone กล่าวว่า รายงานจ้างงานที่ออกมาแข็งแกร่งในคืนวันศุกร์ได้ลดแนวโน้มที่จะเห็นเฟดหั่นดอกเบี้ยลง 0.5% โดยมองโอกาสเหลือเพียง 2% จากคาดการณ์ก่อนหน้าที่ 30% และนั่นส่งผลลบต่อทองคำในเวลานี้
· อย่างไรก็ดี เฟดยังถูกคาดที่จะเห็นการลดดอกเบี้ยในการประชุม 30-31 ก.ค.นี้ โดยคาดจะปรับลง 0.25% เนื่องจากค่าแรงและข้อมูลเศรษฐกิจอื่นๆ โดยภาพรวมมีทิศทางอ่อนตัว
· ตลาดการเงินกำลังสนใจ นายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟด ที่จะมีการกล่าวถ้อยแถลงต่อสภาคองเกรส เกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้ ที่อาจเป็นนัยยะต่อแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของเฟดได้
· กรรมการผู้จัดการจาก High Ridge Futures กล่าวว่า ความตึงเครียดที่กำลังดำเนินไปจากอิหร่าน และประเด็นที่บรรดาธนาคารกลางต่างๆที่เพิ่มการเข้าซื้อทองคำ ยังถือเป็นปัจจัยบวกที่สนับสนุนราคาในเวลานี้
· รายงานล่าสุด เผยว่า ธนาคารกลางจีนมีการเพิ่มการถือครองทองคำติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7 ในเดือนมิ.ย.
· ประเด็นความตึงเครียดสหรัฐฯ - อิหร่านยังไม่สิ้นสุด หลังล่าสุดอิหร่านพร้อมเสริมสมรรถภาพแร่ยูเรเนียมเกินขีดกำหนดตามข้อตกลงยุติการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ฉบับปี 2015 และมีการกล่าวเตือนให้อิหร่านระวังตัวไว้จากนายทรัมป์
· นักวิเคราะห์จาก Commerzbank มองว่าทองคำมีโอกาสแตะ 1,500 เหรียญในช่วงสิ้นปีนี้ โดยระยะสั้นอาจเห็นราคาทองคำปรับตัวลงมาบ้าง แต่สภาวะแวดล้อมของทองคำยังคงเป็นบวก ไม่ว่าจะมาจากกระแสการปรับลดดอกเบี้ยของเฟด ความเสี่ยงทางการเมืองต่างๆที่ดูจะเอื้อต่ออุปสงค์การลงทุน ที่จะมาถ่วงดุลกับอุปสงค์ทองคำที่อ่อนตัวลงบ้างในเอเชีย ขณะที่ทีมนักกลยุทธ์ค่าเงิน มองว่าการอ่อนค่าของดอลลาร์ มาจากการที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยได้มากกว่าอีซีบีก็ยังเป็นปัจจัยที่หนุนราคาทองคำ
ทั้งนี้ Commerzbank ปรับคาดการณ์จากเดิมที่มองว่าสิ้นปีนี้ระดับราคาทองคำจะอยู่ที่ 1,400 เหรียญ เป็น 1,500 เหรียญ และอาจเห็นราคาปรับขึ้นต่อได้ในปี 2020
· นายเดวิด รอช ประธานและนักกลยุทธ์จาก Independent Strategy กล่าวว่า ราคาทองคำจะสามารถปรับตัวขึ้นได้ต่อหลังจากที่ไปทำระดับสูงสุดในรอบหลายปีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยทองคำมีโอกาสแตะ 2,000 เหรียญในปีนี้ โดยที่ราคาทองคำกลับสู่แนวโน้มขาขึ้น ท่ามกลางปัจจัยหนุนต่างๆ จากกรณีเฟดลดดอกเบี้ย, ความตึงเครียดทางการเมือง และความกังวลต่อเงื่อนไขต่างๆที่อาจเข้ามากดดันตลาดหุ้น
และถึงแม้เราจะเห็นทองคำอ่อนตัวลงบ้าง แต่ทองคำก็มีโอกาสปรับขึ้นได้ต่อโดยเฉพาะปัจจัยความตึงเครียดทางการค้าที่ดูจะเป็นผลลบอย่างมากต่อตลาดหุ้น ซึ่งข้อขัดแย้งทางการค้ากับสหรัฐฯค่อนข้างมีมาก และดูเหมือนจะขยายตัวเป็นข้อพิพาททั่วโลก ปัจจัยนี้จะยิ่งกดดันตลาดหุ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อราคาทองคำ ในขณะที่นักลงทุนเพิ่มการถือครองทองคำ ควบคู่กับตราสารหนี้ของยุโรปและพันธบัตรสหรัฐฯบางส่วน
· ราคาซิลเวอร์ปิด +0.4% ที่ 15.03 เหรียญ ในขณะที่ราคาพลาเดียมปิด -0.4% ที่ 1,560 เหรียญ และแพลทินัมปิด +1.6% ที่ 817 เหรียญ