· ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงติดต่อกันเป็นวันที่ 3 แม้ว่าตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯที่ประกาศเมื่อคืนนี้จะค่อนข้างสดใส แต่ไม่สามารถช่วยหนุนค่าเงินจากแรงกดดันของกระแสคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้
ดัชนีดอลลาร์อ่อนค่า 0.1% แถว 96.94 จุด และมีแนวโน้มปิดตลาดรายสัปดาห์ ปรับร่วงลงมากที่สุดในรอบ 3 สัปดาห์
· นักวิเคราะห์จาก Commerzbank มีมุมมองว่า การปรับลดดอกเบี้ยในภาวะที่อัตราเงินเฟ้อซบเซา เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่การส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินในขณะที่อัตราเงินเฟ้อส่งสัญญาณจะฟื้นตัว ดูจะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างแปลกประหลาด ดังนั้นจึงมองว่า ทางเฟดอาจกำลังเผชิญแรงกดดันทางเมือง
· ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้น ท่ามกลางแรงหนุนจากการเทขายพันธบัตรเยอรมนี ส่งผลให้ค่าเงินแข็งค่าขึ้น 0.1% แถว 1.1270 ดอลลาร์/ยูโร
· นักวิเคราะห์จาก Mizuho Securities ระบุว่า ตลาดจะจับตาถ้อยแถลงของนายชาลส์ อีวานส์ ประธานเฟดสาขาชิคาโก และนายจอห์น วิลเลียม ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก ที่มีกำหนดจะขึ้นกล่าวถ้อยแถลงภายในคืนวันศุกร์นี้ เพื่อหาสัญญาณว่าเฟดจะมีท่าผ่อนคลายนโยบายการเงินมากเพียงใด
· รายงานจาก The New York Times ระบุว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของ Koch Industries กำลังถูกกักบริเวณโดยเจ้าหน้าที่ของทางการจีน ภายในบริเวณโรงแรมที่เขาพักในประเทศจีน
รายงานดังกล่าวเกิดขึ้นหลังมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ชาวจีน-สหรัฐฯที่ไม่ระบุนาม กำลังถูกสอบสวนเกี่ยวกับปัญหาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน รวมถึงหัวข้ออื่นๆ และถูกกักบริเวณไม่ให้สามารถเดินทางออกจากประเทศได้ จนกระทั่งกระทรวงต่างประเทศแทรกแซงเข้ามา
ข่าวการกักบริเวณ ก่อให้เกิดเป็นความกังวลของบรรดาเจ้าหน้าสหรัฐฯ เกี่ยวกับการถูกกลั่นแกล้งโดยเจ้าหน้าที่ของจีน โดยในเดือน ต.ค. ปีก่อน มีรายงานในลักษณะเดียวกัน แต่เป็นเจ้าหน้าที่ของ UBS ของสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งถูกกักบริเวณไม่ให้เดินทางออกนอกประเทศจีน จนกว่าจะได้พบกับเจ้าหน้าระดับสูงของจีน
เมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯออกข้อความเตือนชาวสหรัฐฯ “ให้มีความระมัดระวัง ระหว่างการเดินทางไปยังประเทศจีน” เนื่องจากมีรายงานว่า จีนพยายามกักบริเวณชาวสหรัฐฯไม่ให้เดินทางออกจากประเทศ ซึ่งทางการจีนก็ได้มีการออกข้อความเตือนประชาชนจีนในลักษณะเดียวกัน
· นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวหาว่า จีนไม่สามารถทำตามข้อตกลงที่ว่าจะเข้าซื้อสินค้าการเกษตรจากสหรัฐฯมากขึ้น ซึ่งเป็นข้อตกลงที่จีนให้ปากคำไว้ระหว่างที่ทั้ง 2 ประเทศกำลังร่วมมือกันเจรจาหาข้อยุติความขัดแย้งทางการค้า แต่ได้แสดงความหวังว่า จีนจะกลับมาดำเนินการให้ได้ตามที่สัญญาไว้
· เกาหลีใต้เรียกร้องให้จัดกระบวนการสืบสวนในระดับนานาชาติ หลังจากถูกญี่ปุ่นกล่าวหาว่า เกาหลีใต้มีการส่งสินค้าในกลุ่มเทคโนโลยีบางตัวที่นำเข้าจากญี่ปุ่นต่อไปยังเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือขององค์การสหประชาชาติ
· อิหร่านเรียกร้องให้กองทัพเรือของอังกฤษ ปล่อยเรือขนส่งน้ำมันของอิหร่านที่ถูกทางกองทัพจับกุมไว้ เนื่องจากสงสัยว่าเรือขนส่งดังกล่าวกำลังขนส่งน้ำมันไปยังซีเรีย ซึ่งเป็นการละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหภาพยุโรป
ก่อนหน้านี้ รายงานจากอังกฤษระบุว่า กองทัพเรืออิหร่านพยายามกีดกันไม่ให้เรือขนส่งน้ำมันของอังกฤษจำนวน 3 ลำ สามารถเคลื่อนตัวผ่านช่องแคบฮอร์มุซไปได้ ก่อนที่ฝั่งอิหร่านจะล่าถอยกลับไป หลังจากเผชิญหน้ากับกองทัพเรือของอังกฤษ
· ราคาน้ำมันดิบทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ ภาพรวมรายสัปดาห์ก็ปรับตัวสูงขึ้นเช่นเดียวกัน ท่ามกลางพายุโซนร้อน Barry บริเวณอ่าวเม็กซิโกทำให้บริษัทน้ำมันหลายแห่งต้องหยุดดำเนินการ ส่งผลให้กำลังการผลิตน้ำมันดิบปรับลดลงราว 1 ล้านบาร์เรล/วัน คิดเป็น 53% ของกำลังการผลิตน้ำมันดิบในอ่าวเม็กซิโก
ราคาน้ำมันดิบ Brent เพิ่มขึ้น 0.9% ที่ระดับ 67.09 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 0.8% ที่ระดับ 60.66 เหรียญ/บาร์เรล
สำหรับภาพรวมรายสัปดาห์น้ำมันดิบ Brent ปรับตัวสูงขึ้น 4.4% ขณะที่น้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 5.4%
CRUDE OIL TECHNICAL ANALYSIS
· ราคาน้ำมันหลังจากที่สามารถปรับขึ้นเหนือแนวต้านของเทรนขาลงตั้งแต่เดือน เม.ย. ล่าสุดเริ่มชะลอตัวใกล้แนวต้านที่ระดับ 60.04 – 60.84 เหรียญ/บาร์เรล แต่การเคลื่อนไหวลักษณะนี้ยังบ่งชี้ว่าทิศทางของราคากำลังกลับมาเป็นขาขึ้นต่อจากช่วงปลายปี 2018 หากราคาปรับสูงขึ้นต่อ จะมีเป้าหมายถัดไปแถว 63.59 – 64.43 เหรียญ/บาร์เรล ส่วนแนวรับจะมีอยู่หลายแนวด้วยกัน ไปจนถึงระดับ 54.84 เหรียญ/บาร์เรล หากหลุดแนวนี้ลงไป จะโอกาสลงต่อไปถึงระดับ 50 เหรียญ/บาร์เรล