· ราคาทองคำปรับตัวลดลงเล็กน้อย แต่ยังเป็นการเคลื่อนไหวแบบทรงตัวเหนือระดับ 1,400 เหรียญ ท่ามกลางแรงกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจของจีนที่ออกมาดีขึ้นกว่าคาด จึงผ่อนคลายความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกลงไปบ้าง
ราคาทองคำปรับตัวลง 0.2% แถว 1,413.20 เหรียญ
ขณะที่ราคาสัญญาทองคำปรับลดลง 0.2% บริเวณ 1,415.10 เหรียญ
อัตราการผลิตของภาคอุตสาหกรรมในประเทศจีนขยายตัว 6.3% จากปีก่อนหน้า สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 5.2% ขณะที่ปริมาณการลงทุนในสินทรัพย์คงทนปรับสูงขึ้น 5.8% จากปีก่อนหน้า มากกว่าคาดไว้ที่ 5.5%
· นักวิเคราะห์จากธนาคาร OCBC ประเมินว่า การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ออกมาดีกว่าคาด ทำให้ตลาดคลายความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้เกิดแรงเทขายทำกำไรในทองคำ
อย่างไรก็ตาม อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลกกลับชะลอตัวลงสู่ระดับ 6.2% ในไตรมาสที่ 2/2019 ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำที่สุดในรอบ 27 ปี
· นักวิเคราะห์จึงมองว่า ภาพรวมของเศรษฐกิจยังอยู่ในทิศทางอ่อนแอ ทำให้ความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและตะวันออกกลางยังคงมีอยู่ในระดับสูง ความต้องการทองคำในฐานะ Safe-haven จึงยังแข็งแกร่ง
· นักวิเคราะห์จาก CMC Markets ระบุว่า ยอดค้าปลีกและอัตราการผลิตของจีนที่ออกมาดีขึ้น ส่งผลให้กระแสคาดการณ์ว่าธนาคารกลางจีนจะผ่อนคลายนโยบายการเงินเริ่มลดน้อยลงไป
ราคาทองคำยังคงถูกกดดันจากตลาดหุ้นเอเชียที่ปรับสูงขึ้นได้จากตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ค่อนข้างสดใส โดยตลาดมีความหวังว่าเศรษฐกิจจีนจะเริ่มกลับมามีภาวะสมดุลจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจีน
· ดัชนีดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นในวันนี้ ยังเป็นอีกปัจจัยที่กดดันราคาทองคำ แต่ดัชนีดอลลาร์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ปรับอ่อนค่าลงติดต่อกัน 3 วันทำการ ท่ามกลางกระแสคาดการณ์เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้
· นักวิเคราะห์ระบุว่า เหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจที่ตลาดจะจับตาเป็นประเด็นถัดไป คือการประชุมเฟดที่จะเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนนี้ โดยตลาดมีกระแสคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างแน่นอน แต่ผันผวนระหว่างการปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% หรือ 0.50% ไม่ว่าจะปรับลดลงมากแค่ไหนก็ตาม ราคาทองคำก็จะได้รับแรงหนุนจากประเด็นนี้
· รายงานจาก CFTC ระบุว่า บรรดากองทุนเฮดฟันด์และนักบริหารเงิน ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ลดการถือครองสถานะ Long ในทองคำ COMEX ลง
· ในเชิงเทคนิค นักวิเคราะห์จาก Reuters ประเมินว่า ราคาเคลื่อนไหว Sideways ในกรอบ 1,404 – 1,421 เหรียญ หากหลุดในทางทิศทางใดทิศทางหนึ่งจะบ่งชี้ถึงทิศทางต่อไปของทองคำ
· ผลสำรวจโดย Kitco สำหรับราคาทองคำสัปดาห์นี้ บรรดานักวิเคราะห์และนักลงทุนทั่วไปกลับมีความเห็นที่แตกต่างกัน โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหวทรงตัวหรือ Sideways ขณะที่นักลงทุนทั่วไปยังคงมองว่าราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นได้อีก
โบรกเกอร์สินค้าโภคภันฑ์อาวุโสจาก RJO Futures คาดการณ์ว่า ราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้น โดยจะเป็นการปรับขึ้นต่อจากแรงหนุนของสัญญาณการปรับลดดอกเบี้ยของเฟด
· ผู้บริหารจากสถาบัน RBC Wealth Management คาดการณ์ว่า ราคาทองคำสัปดาห์นี้ จะปรับสูงขึ้นได้ใน ระดับ “ปานกลาง” เนื่องจากกระแสคาดการณ์การผ่อนคลายนโยบายการเงินของเฟด เริ่มที่จะซบเซาลง
· นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Price Futures Group ระบุว่า เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า ราคาทองคำได้รับแรงหนุนที่แข็งแกร่งจากสัญญาณการผ่อนคลายนโยบายจากเฟด รวมทั้งยังมีความตึงเครียดทางการเมือง โดยเฉพาะประเด็นสหรัฐฯ-อิหร่าน และสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน
· นักวิเคราะห์จาก Kitco คาดว่า ราคาทองคำยังปรับขึ้นได้อีก เนื่องจากภาพรวมทางเทคนิคยังบ่งชี้ไปถึงแนวโน้มทิศทางขาขึ้น
· นักวิเคราะห์จาก Trading View รายหนึ่่ง ระบุว่า ราคาทองคำมีโอกาสกลับทดสอบบริ
เวณแนวต้าน 1,435 - 1,438 เหรียญ เมื่อรอถึงบริเวณนั้นอาจจะให้
รอจังหวะเพื่อทำการเปิดขาย
· นักวิเคราะห์จาก DailyFX กล่าวว่า ราคาทองคำปรับตัวขึ้นอยู่ในกรอบแคบๆระหว่างจุดสูงสุดระดับ 1,433.85 เหรียญ ซึ่งหากราคาฝ่าไปได้มีโอกาสกลับทดสอบ 1,500 เหรียญ ในทางกลับกันหากทองคำหลุดแนวรับ 1,375.15 เหรียญ สู่ระดับ 1,346.75 เหรียญ
· ราคาซิลเวอร์ปรับสูงขึ้น 0.4% แถว 15.27 เหรียญ ขณะที่ราคาพลาเดียมปรับสูงขึ้น 1% แถว 1,560.47 เหรียญ
· ราคาแพลทินั่มปรับสูงขึ้น 0.5% แถว 832 เหรียญ ระหว่างวันทำระดับสูงสุดที่ 838.73 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของวันที่ 4 ก.ค.