· ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวลงหลังไปทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากถ้อยแถลงของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯต่อข้อขัดแย้งทางการค้ากับจีน โดยดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 23.53 ขุด หรือคิดเป็น -0.1% ที่ระดับ 27,335.63 จุด ถือเป็นการปิดปรับลงครั้งแรกหลังฟื้นตัวต่อเนื่อง 4 วันทำการ ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิด -0.3% ที่ 3,004.04 จุด ปิดร่วงลงครั้งแรกหลังปรับขึ้นต่อเนื่อง 5 วันทำการ และ Nasdaq ปิด -0.4% ที่ 8,222.8 จุด ซึ่งภาพรวมทั้ง 3 ดัชนีหลักยังคงทำ All-Time High ได้ตลอดช่วงการซื้อขาย
ทั้งนี้ นายทรัมป์ กล่าวว่า สหรัฐฯและจีนใช้เวลายาวนานเกินไปทางการค้า ซึ่งสหรัฐฯอาจขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจีนอีกมูลค่า 3.25 แสนล้านเหรียญ หากเราต้องการ
อย่างไรก็ดี ถ้อยแถลงดังกล่าวดูจะสร้างความตึงเครียดทางการค้ากับสองประเทศมากขึ้นท่ามกลางความพยายามที่กลับมาเจรจาทางการค้ากันใหม่ ซึ่ง Trade War ที่ดำเนินไปถือเป็นปัจจัยที่ฉุดให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจโลกชะลอตัว และอาจกดดันต่อรายงานผลประกอบการภาคบริษัทสหรัฐฯด้วย
· หุ้นยุโรปปิดปรับขึ้นวานนี้ ท่ามกลางเหล่าเทรดเดอร์ที่รอคอยการประกาศผลประกอบการของภาคบริษัททั้งหลาย โดยดัชนี Stoxx600 ปิด +0.3% หลังหุ้นก่อสร้างและวัตถุดิบปิดปรับขึ้นกว่า 1.65%
· ตลาดหุ้นเอเชียปิดผสมผสานกันวานนี้จากการที่ RBA สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะปรับนโยบายการเงินหากจำเป็น โดยดัชนีเซี่ยงไฮ้ คอมโพสิตปิด -0.16% และเสิ่นเจิ้นคอมโพสิตปิดทรงตัว ทางด้าน HSI ปิดปรับขึ้นเล็กน้อย 0.1% ในชั่วโมงสุดท้ายของการเทรด
· เช้านี้ตลาดหุ้นเอเชียเปิดปรับตัวลงจากประเด็นความขัดแย้งสหรัฐฯ-จีนที่ยังมีอยู่ โดยดัชนีนิกเกอิเปิด -0.31% ขณะที่ดัชนี Topix เปิด -0.21% ทางด้านหุ้น Kospi ของเกาหลีใต้เปิด -0.68% และหุ้น ASX200 เปิดอ่อนตัวลง เช่นเดียวกับ MSCI ที่ไม่รวมญี่ปุ่นเปิด -0.16%
· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- นักบริหารเงิน คาดว่า เงินบาทวันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 30.80 - 31.00 บาท/ดอลลาร์
- ธปท. เผย 7 ข้อเท็จจริงเรื่องค่าเงินบาท และการปรับตัวภายใต้ความผันผวนของเศรษฐกิจโลก มองไปข้างหน้าความเสี่ยงและความผันผวนจากอัตราแลกเปลี่ยนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ไม่ลดลง เพราะปัจจัยสำคัญที่กำหนดค่าเงินบาทมาจากต่างประเทศ เช่น จากสหรัฐฯ หรือยุโรป ดังนั้น ค่าเงินจะขึ้นหรือลงไม่มีใครคาดเดาได้ ไม่อยากให้ผู้ประกอบการคาดเดาหรือเก็งกำไร ดังที่ผู้ประกอบการบางท่านบอกว่าขอติดปลายนวมเล็ก ๆ น้อย ๆ เพราะทำธุรกิจมาด้วยความยากลำบากจึงควรปิดความเสี่ยง โดยรวมค่าทำประกันความเสี่ยง FX เข้ามาเป็นต้นทุนเหมือนต้นทุนปกติ เหมือนการส่งสินค้าไปต่างประเทศ ต้องซื้อประกันfreight insurance เรื่องอัตราแลกเปลี่ยนก็เช่นเดียวกัน ควรเป็นส่วนหนึ่งของการทำประกันตามปกติ
-ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ภาพรวมกำไรสุทธิของระบบธนาคารพาณิชย์ที่จดทะเบียนในไทย จะอยู่ที่ประมาณ 5.1-5.2 หมื่นล้านบาทในไตรมาส 2/2562 ลดลงจากกำไรสุทธิที่ 5.259 หมื่นล้านบาทในไตรมาส 1/2562 โดยกำไรจากการดำเนินงานในไตรมาส 2/2562 อาจมีกรอบการฟื้นตัวที่จำกัด เนื่องจากการเติบโตของรายได้จากธุรกิจหลักของธนาคารพาณิชย์ ทั้งการปล่อยสินเชื่อ และรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ ยังคงรอจังหวะการฟื้นตัวที่ชัดเจนของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ซึ่งเลื่อนเวลาออกไปเป็นช่วงครึ่งหลังของปี
- อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมฯ เดินหน้าตรวจสอบนิติบุคคลที่ไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมาย ล่าสุดพบนิติบุคคลขาดการส่งงบการเงินเกิน 3 ปีติดต่อกันจำนวน 8,519 ราย ไม่ชำระบัญชีให้เสร็จจำนวน 3,959 ราย เข้าข่ายเป็นห้างหุ้นส่วนบริษัทร้างโดยนายทะเบียนจะพิจารณาดำเนินการขีดชื่อนิติบุคคลออกจากทะเบียนเพื่อปรับปรุงฐานข้อมูล และป้องกันการใช้ชื่อนิติบุคคลที่มิได้ทำการค้ามาหลอกลวงประชาชน เตือนนักธุรกิจก่อนลงทุนต้องตรวจสอบคู่ค้าให้ดีด้วยช่องบริการข้อมูลนิติบุคคลของกรมฯ