• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 17 กรกฎาคม 2562

    17 กรกฎาคม 2562 | SET News


· หุ้นอนุพันธ์สหรัฐฯเปิดปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในวันนี้ หลังจากที่เผชิญความผันผวนของถ้อยแถลงของนายทรัมป์ ต่อกรณี Trade War สหรัฐฯและจีนที่ยืดเยื้อ โดยดัชนี Dow Jones Futures ปรับขึ้นประมาณ 17 จุด ขณะที่ S&P500 และ Nasdaq ก็ดูจะขยับขึ้นด้วยท่าทีระมัดระวัง



· สถาบันการเงินสหรัฐฯรายใหญ่จำนวน 2-3 แห่ง พากันออกมากล่าวเตือนนักลงทุนถึงผลกระทบจากการปรับลดดอกเบี้ยของเฟดที่อาจทำให้ สเปรดของภาคธนาคารดิ่งลงในช่วงที่เหลือของปี 2019 ได้


ทั้งนี้ J.P. Morgan, Wells Fargo และ Goldman Sachs ต่างมองว่า การที่เฟดจะทำการปรับลดดอกเบี้ยลงอีก 0.25% ดูจะส่งผลกระทบต่อภาคกำไรของบริษัทและดูเหมือนระยะสั้นจะทำให้สเปรดของอัตราดอกเบี้ยที่เรียกเก็บจากกลุ่มผู้กู้ยืมกับอัตราดอกเบี้ยเงินออมของธนาคารหดตัวลง



· ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดค่อนข้างทรงตัว ท่ามกลางการประกาศผลประกอบการของบรรดาบริษัทที่ผสมผสานกัน รวมถึงความไม่แน่นอนเกี่ยวกับ Brexit และความตึงเครียดทางการค้าที่ยังจำกัดการซื้อขายในตลาด ขณะที่ดัชนีหุ้นยุโรปเปิด -0.07% ซึ่งอาจกลายเป็นวันแรกที่ตลาดหุ้นยุโรปปิดในแดนลบในรอบ 4 วันทำการ




· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงเล็กน้อย ท่ามกลางเหล่านักลงทุนที่ยังคงเฝ้ารอรายงานผลประกอบการเพิ่มเติมจากบรรดาลริษัทสหรัฐฯ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ทรงตัวหลังการประกาศตัวเลขยอดค้าปลีกที่ออกมาสดใส ส่วนค่าเงินปอนด์อ่อนค่าลงจากประเด็น Brexit

ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปรับลดลง 0.25%

นักวิเคราะห์จาก NatWest Markets ระบุว่า ยอดค้าปลีกสหรัฐฯที่ประกาศออกมาสดใส น่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มการปรับลดดอกเบี้ยของเฟดแต่อย่างใด เนื่องจากเฟดรับทราบถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐฯดี แต่การที่เฟดจะปรับลดภาษี มาจากความเสี่ยงของการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ความอ่อนแอของภาคอุตสาหกรรมและการลงทุน



· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดลบ หลังตลาดรับทราบถึงมุมมองเชิงลบที่มีต่อสงครามการค้าจากถ้อยแถลงของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ส่งผลให้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับลดลงตามหุ้นสหรัฐฯ ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารได้ผลประโยชน์จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรับฯที่ปรับสูงขึ้นจากตัวเลขยอดค้าปลีกที่ออกมาสดใส


ทั้งนี้ ดัชนี Nikkei ปิด -0.3% ที่ระดับ 21,469.18 จุด ส่วนดัชนี Topix ปิด -0.1% ที่ระดับ 1,567.41 จุด



· ตลาดหุ้นจีนปิดลบท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบาง โดยเป็นการปรับลดลงต่อจากเมื่อวานนี้ ท่ามกลางแรงกดดันจากความกังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่งาสหรัฐฯ-จีน ขณะที่นักลงทุนกำลังจับตาดูว่ารัฐบาลจะมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหรือไม่


ทั้งนี้ ดัชนี Shanghai Composite ปิด -0.2% ที่ระดับ 2,931.69 จุด



· สำนักข่าวอินโฟเควสท์




- การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,729.88 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,722.77 จุด

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งแคบ เผชิญปัจจัยลบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่กลับมาอีกครั้ง ซึ่งคงจะไม่จบง่าย ทำให้ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ติดลบเล็กน้อยเฉลี่ย 0.3% อีกทั้งตลาดฯก็ไม่มีปัจจัยบวกเข้ามาหนุนด้วย ทำให้ตลาดฯปรับฐานเล็ก ๆ ในช่วงสั้น

นอกจากนี้ ยังต้องจับตาการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ที่คาดว่าจะออกมาไม่ดีนัก โดยเฉพาะกลุ่มแบงก์ ซึ่งบ้านเราจะทยอยประกาศงบฯกลุ่มแบงก์ออกมามากในช่วงปลายสัปดาห์นี้ ทำให้ราคาหุ้นในกลุ่มแบงก์วันนี้เซไปบ้าง เห็นได้จากหุ้น KBANK เป็นต้น



- นายจุรินทร์ กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวานนี้มีมติเห็นชอบร่างนโยบายที่จะแถลงต่อที่ประชุมรัฐสภา โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ นโยบายที่ต้องดำเนินการในช่วง 4 ปีของรัฐบาล และนโยบายเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการภายใน 1 ปี ซึ่งหนึ่งในนโยบายเร่งด่วนที่สำคัญคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ส่วนประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญถือเป็นนโยบายของทางพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้มีการพูดคุยตั้งแต่ในช่วงของการจัดตั้งรัฐบาล รวมถึงนโยบายประกันรายได้เกษตรกร และการบริหารราชการแผ่นดินด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งทั้ง 3 ข้อนี้ได้ถูกบรรจุไว้ในนโยบายของรัฐบาล


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com