• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคเช้า) ประจำวันที่ 18 กรกฎาคม 2562

    18 กรกฎาคม 2562 | SET News



· หุ้นสหรัฐฯปิดแดนลบวานนี้ ท่ามกลางการประกาศรายงานผลประกอบการที่ไม่สดใสอย่าง CSX และ Bank of America โดยดาวโจนส์ปิด -115.7 จุด หรือคิดเป็น -0.42% ด้าน S&P500 ปิด -0.65% ทางด้าน Nasdaq ปิด -0.46%

นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากรายงานของ Wall Street Journal ที่ระบุว่า แหล่งข่าววงใน เผยความคืบหน้าการเจรจาข้อตกลงการค้าสหรัฐฯกับจีนที่ยังดูชะงักงันในประเด็นการคว่ำบาตรบริษัทหัวเว่ย

CSX เผยผลประกอบการแย่กว่าคาด ฉุดหุ้นบริษัทฯดิ่งลงกว่า 10% เป็นระดับรายวันที่แย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2008

· หุ้นยุโรปปิดแดนลบ ท่ามกลางความกังวลต่อประเด็นสงครามการค้าที่ดูจะกดดันตลาดหุ้นทั่วโลก ท่ามกลางฤดูกาลประกาศผลประกอบการในช่วงนี้ โดยดัชนี Stoxx600 ปิด -0.36% ท่ามกลางหุ้นขนส่งน้ำมันปรับลงเกือบ 2% และหุ้นกลุ่มเครื่องดื่มปรับลง -0.5%

ตลาดให้ความสำคัญกับความตึงเครียดทางการค้าอีกครั้ง หลังจากที่นายทรัมป์เผยถ้อยแถลงล่าสุดที่ดูจะบ่งชี้ถึงโอกาสจะขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจีนได้หลังจากที่เจรจาการค้ายังยืดเยื้อ


สำหรับข้อมูลเงินเฟ้อยูโรโซนเมื่อเปรียบเทียบรายปีในเดือนมิ.ย. พบว่ามีการปรับตัวขึ้นเล็กน้อยแตะระดับ 1.3% แต่ก็ดูเหมือนจะไม่เพียงพอต่อเป้าหมายที่อีซีบีกำหนดไว้ที่ 2%


· ตลาดหุ้นเอเชียเปิดปรับตัวลงในเช้าวันนี้ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่รอการประกาศข้อมูลการจ้างงานของออสเตรเลีย โดยดัชนีนิกเกอิเปิด -0.79% และ Topix เปิด -0.76%

รัฐมนตรีกระทรวงการคลังญี่ปุ่น เผย ยอดส่งออกญี่ปุ่นปรับตัวลง 6.7% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบกับปีก่อน และออกมาแย่กว่าที่คาดการณ์ไว้โดยผลสำรวจ Reuters ที่ 5.6%


ดัชนี Kospi ของเกาหลีใต้เปิด -0.28% และดัชนี S&P/ASX200 เปิด -0.19% ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่รอข้อมูลจ้างงานและการที่บริษัทไต้หวัน เซมิคอนดัคเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง จะเผยผลประกอบการในวันนี้ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในบริษัทซัพพลายเออร์รายใหญ่ของบริษัทแอปเปิ้ล

· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

-นักบริหารเงินคาดว่า เงินบาทวันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 30.85-30.95 บาท/ดอลลาร์ โดยเป็นการเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆจากปัจจัยเรื่องความไม่แน่นอนเกี่ยวกับสงครามการค้า และการที่แบงก์ชาติใช้มาตรการป้องปรามการเก็งกำไรค่าเงินบาท

-ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.)เข้าหารือกับกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาวิกฤตค่าเงินบาทต่อภาคการส่งออก โดยขอ ให้ธปท. แก้ไขปัญหาด้านอัตราแลกเปลี่ยน เช่น ขอให้ดำเนินนโยบายอย่างเข้มข้นมากขึ้นในการป้องกันการไหลเข้าของเงินทุนที่เข้ามาเก็งกำไรระยะสั้น, ให้รักษาทิศทางอัตราแลกเปลี่ยนให้สอดคล้องกับประเทศคู่ค้าและคู่แข่งในภูมิภาค

-ผู้ว่าธปท. ยอมรับว่ามาตรการมาตรการป้องปรามการเก็งกำไรค่าเงินบาทดังกล่าว เป็นการส่งสัญญาณที่แรง เพื่อให้นักลงทุนต่างประเทศระมัดระวังมากขึ้นในการนำเข้าเข้ามาพักในประเทศไทย โดยค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่าทันทีในวันแรกที่ออกมาตรการดังกล่าว และหวังว่าจะเกิดผลต่อเนื่องในระยะยาว ช่วยลดแรงกระแทกเมื่อมีงินไหลเข้าส่วนการทำนโยบายการเงิน ขณะนี้ ธปท.อยู่ในระหว่างการหารือกับกระทรวงการคลัง เพื่อพิจารณาทบทวนกรอบเงินเฟ้อสำหรับปี 63 ให้มีความเหมาะสมกับสถานการณ์มากที่สุด

-ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ช่วงครึ่งหลังของปีนี้แนวโน้มนโยบายการเงินมีความผ่อนคลาย จากการที่เฟด และธนาคารกลางอื่น ๆ ทั่วโลก จะเป็นตัวกำหนดทิศทางการลงทุน ในขณะที่ความขัดแย้งทางการค้าจะยืดเยื้อและไม่จบลงง่าย ๆ แม้ว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯจะมีการพบกับผู้นำจีนนอกรอบในการประชุม G20 ครั้งที่ผ่านมา จนส่งผลให้ sentiment ของตลาดดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตามยังมีความขัดแย้งในหลาย ๆ ประเทศที่ทยอยเกิดขึ้นตามมา ก็ส่งผลกระทบต่อทิศทางของตลาดที่จะมีความผันผวนได้

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com