• สรุปข่าวตลาดหุ้น (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 18 กรกฎาคม 2562

    18 กรกฎาคม 2562 | SET News

· ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลง ท่ามกลางเหล่านักลงทุนที่ให้ความสนใจไปยังการประกาศผลประกอบการและจับตาไปยังประเด็นสงครามทางการค้าที่ยืดเยื้อระหว่างสหรัฐฯและจี

โดยดัชนี Stoxx600 ลดลง 0.6% ด้านหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง 2.3% ขณะที่หุ้นกลุ่มเทเลคอมและกลุ่มสุขภาพเคลื่อนไหวในทิศทางบวก

· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลง ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯร่วงลงเมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากการประกาศรายงานผลประกอบการที่ไม่สดใสอย่าง CSX และ Bank of America ท่ามกลางสัญญาณสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่อาจส่งผลกระทบต่อผลประกอบการภาคบริษั

โดยดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นสหรัฐฯลดลง 0.2% ขณะที่ตลาดหุ้นจีนก็ปรับลงเช่นเดียวกัน โดยดัชนี Shanghai Composite และดัชนีกลุ่มบลูชิพ CSI 300 ลดลง 0.7% และ 0.6% ตามลำดับ ด้านตลาดหุ้นฮ่องกง ดัชนี Hang Seng ลดลง 0.5%

ด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับลดลงเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนทำให้อุปสงค์สินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้นหลังจากที่ข้อมูลความอ่อนแอในตลาดที่อยู่อาศัยสหรัฐฯ

ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีและ 30 ปีเพิ่มขึ้นมากกว่า 7 จุดที่ระดับ 2.06% และ 2.57% ตามลำดับ

· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลงมากที่สุดในรอบกว่า 4 เดือน เนื่องจากข้อมูลภาคการส่งออกและผลประกอบการภาคบริษัทสหรัฐฯออกมาอ่อแอ ส่งผลให้เกิดความกังวลครั้งใหม่เกี่ยวกับปัญหาทางด้านสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน

โดยดัชนี Nikkei ลดลง 1.97% ที่ระดับ 21,046.24 จุด แตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือน

หัวหน้านักกลยุทธ์ประจำ Monex Securities ผลประกอบการผู้ผลิตทั่วโลกอ่อนตัวลงในตอนนี้ ท่ามกลางเหล่านักลงทุนที่กำลังออกมารอซื้อเมื่อราคาปรับตัวลง หากดัชนี Nikkei ลดลงต่ำกว่า 21,000 จุด

เนื่องจากรายงานผลประกอบการที่ไม่สดใสอย่าง CSX และ Bank of America ทำให้เกิดความกังวลว่าปัญหาความขัดแย้งทางการค้าที่ยืดเยื้อระหว่างสหรัฐฯและจีนอาจส่งผลกระทบต่อผลประกอบการภาคบริษัทสหรัฐฯ

· ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลดลง เนื่องจากเหล่านักลงทุนเตรียมพร้อมสำหรับการประกาศผลประกอบการผลกำไรอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางผลประกอบการภาคบริษัทสหรัฐฯที่ออกมาอย่างอ่อนแอจากประเด็นสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน

โดยดัชนี Shanghai Composite ลดลง 1% ที่ะรดับ 2,901.18 จุด

อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- ผู้ว่า ธปท.พร้อมออกมาตรการเพิ่มเติมหากเงินบาทเคลื่อนไหวไม่สอดคล้องพื้นฐานมั่นใจมาตรการป้องปรามเก็งกำไรค่า

เงินเกิดผลต่อเนื่องในระยะยาว ลดแรงกระแทกเมื่อมีเงินไหลเข้า

- รมว.แรงงานยอมรับค่าแรง 400 บาท/วัน ไม่สูงแต่ต้องศึกษาผลที่ตามมา กระทบนายจ้าง เงินเฟ้อฉุด

เศรษฐกิจ "สุริยะ" เผยนายกฯมอบหมาย กก.ไตรภาคี หารือรอบคอบ

- ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคตะวันออก หอการค้าไทย กล่าวว่า การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำนั้นรัฐบาลใหม่

ค่อย ๆ ทยอยปรับภายใน 3-4 ปีเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายหาเสียงในการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 400-425 บาทต่อวัน โดยช่วงนี้ควร

ปล่อยให้เป็นไปตามกลไกของคณะกรรมการไตรภาคีไปก่อนและเมื่อเข้าสู่ภาวะที่เศรษฐกิจดีโรงงานอุตสาหกรรมมีคำสั่งซื้อหรือออร์เดอร์จาก

ลูกค้าจำนวนมากก็อาจปรับขึ้นอย่างจริงจังก็ได้เพื่อให้ผู้ประกอบการและแรงงานอยู่รอด เบื้องต้นเชื่อว่าช่วง 3-4 ปีข้างหน้าเศรษฐกิจไทย


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com