· หุ้นสหรัฐฯเคลื่อนไหวแคบๆในกรอบ จากกระแสเฟดลดดอกเบี้ย ประกอบกับตลาดรอดูท่าทีเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน โดยดัชนีดาวโจนส์ปิดปรับขึ้น 28.9 จุด หรือ +0.1% ที่ระดับ 27,221.35 จุด ขณะที่หุ้น S&P500 ปิด -0.16% ที่ระดับ 3,020.97 จุด และดัชนี Nasdaq ปิด -0.44% ที่ระดับ 8,293.33 จุด
กลุ่มนักลงทุนค่อนข้างจับตาอย่างใกล้ชิดต่อรายงานประชุมเฟดว่าจะส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยในเดือนที่เหลือของปีหรือไม่ ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ คาดว่าจะเห็นเฟดลดดอกเบี้ยได้ 1-3 ครั้งในปีนี้
ขณะที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวตำหนิการดำเนินนโยบายของเฟดว่าการลดดอกเบี้ยเพียงเล็กน้อยก็อาจไม่เพียงพอ ในขณะที่อียูและจีนมีการดำเนินนโยบายปรับลดดอกเบี้ยและอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อให้ง่ายต่อกลุ่มผู้ผลิตในการขายสินค้า ในขณะที่สหรัฐฯมีอัตราเงินเฟ้อที่ค่อนข้างต่ำ แต่เฟดกลับไม่ทำอะไร และดูจะดำเนินการด้วยวิธีที่ค่อนข้างแย่ด้วยซ้ำ
· หุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นหลังจากที่สหรัฐฯและจีนกลับมาเจรจาทางการค้ากันใหม่อีกครั้งในสัปดาห์นี้ โดยดัชนี Stoxx 600 ปิด +0.14% ท่ามกลางหุ้นส่วนใหญ่ที่เคลื่อนไหวแดนบวก แม้ว่าตลาดจะมีคาดการณ์กันว่าจะเห็นความคืบหน้าในช่วงการเจรจา 2 วันที่ประทศจีนเป็นไปได้น้อย
นายแลรี คุดโลว์ ที่ปรึกษาเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาวให้สัมภาษณ์กับทางสำนักข่าว CNBC ถึงกรณีการเจรจารอบนี้อาจจะกลับไปเหมือนการเจรจาในเดือนพ.ค. ก็เป็นได้
ขณะเดียวกันกลุ่มนักลงทุนรอคอยผลประชุมเฟดที่ถูกคาดว่าจะเห็นการปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25%
นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษคนใหม่ และผู้นำพรรคอนุรักษ์นิยมมีกำหนดการเดินทางเยือนสก็อตแลนด์เมื่อวานนี้ หลังจากที่หัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยมชาวสก็อตกแลนด์ ระบุว่า เธอจะปฏิเสธการสนับสนุนอังกฤษออกจากยุโรปโดยปราศจากข้อตกลงใดๆ
รายงานจาก CBI หรือสมาพันธ์อุตสาหกรรมอังกฤษ เผยในวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า อียูรู้สึกเสียเวลาเปล่าที่ปล่อยให้อังกฤษเตรียมการออกจากอียูแบบ No-Deal
· ตลาดหุ้นเอเชียเปิดปรับตัวขึ้นท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่รอคอยความคืบหน้าการเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีนในสัปดาห์นี้ ควบคู่กับการตัดสินใจดำเนินนโยบายของบรรดาธนาคารกลางต่างๆ โดยดัชนีนิกเกอิเปิด +0.5% ขณะที่ Topix เปิด +0.46% เช่นกัน
ในวันนี้จะมีการตัดสินใจของบีโอเจ ซึ่งนักลงทุนรอดูผลลัพธ์ว่าจะเป็นเช่นไร หลังจากที่สัปดาห์ที่แล้วอีซีบีส่งสัญญาณต่อโอกาสการปรับลดดอกเบี้ยและการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ดี หัวหน้านักกลยุทธ์จาก Commonwealth Bank of Australia มองว่า บีโอเจน่าจะยังไม่ทำการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการเงินใดๆ และน่าจะยังมีท่าทีย้ำถึงการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินมากกว่า
หุ้น Kospi ของเกาหลีใต้เปิด +0.45% หลังดิ่งลงวานนี้ ขณะที่หุ้น S&P/ASX200 เปิด +0.65% และ MSCI ที่ไม่รวมญี่ปุ่นเปิด +0.22%
· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์
- นักบริหารเงิน คาดว่า จะเห็นค่าเงินบาทเคลื่อนไหวที่ระดับ 30.80 – 31.00 บาท/ดอลลาร์ โดยยังมีการเคลื่อนไหวแคบๆ รอผลประชุมเฟด
- สบน. เผย สถาบันมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส (Moody’s) ปรับมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทยจากระดับเสถียรภาพ (Stable Outlook) เป็นเชิงบวก และคงความน่าเชื่อถือของไทยหรือ Credit Rating ที่ระดับ Baa1 หรือเทียบเท่า BBB+ จากการมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจมหภาคต่อเนื่อง รวมทั้งการลงทุนภาครัฐฯ และการพัฒนาทุนมนุษย์ที่จะยกระดับความสามารถทางเศรษฐกิจไทยได้ โดยเฉพาะภายใต้แผนงานยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
รัฐบาลมีแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) วงเงิน 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (คิดเป็น 10% ของ GDP) ซึ่งส่งผลต่อการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยผ่านการดึงดูดและส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่ที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี
- รมว.คลังไทย กล่าวในระหว่างการอภิปรายนโยบายรัฐบาล โดยชี้แจงถึงความจำเป็นในการตั้งงบประมาณแบบขาดดุลว่ารัฐบาลพิจารณาให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจในขณะนั้น และให้สอดคล้องกับนโยบายและยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ
- กรมสรรพากร เปิดเผยว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2562 (ต.ค.61 - มิ.ย.62) สามารถรจัดเก็บภาษีได้รวม 1.471 ล้านล้านบาท สูงกว่าเป้าประมาณการ 55,543 ล้านบาท หรือ 3.9% และสูงกว่าปีก่อน 115,406 ล้านบาท หรือ 8.5%และคาดว่าช่วงที่เหลือของปีงบ 62 การจัดเก็บภาษีจะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว สงครามการค้า เงินบาทแข็งค่า และอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มลดลง