MTS Help Center

· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากเหล่านักลงทุนรอคอยผลการประชุมเฟดที่คาดว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ ขณะที่ความเสี่ยงกรณี Brexit ที่เพิ่มขึ้นว่าอังกฤษอาจออกจากอียูโดยปราศจากข้อตกลงใดๆและนั่นกดดันให้เงินปอนด์อ่อนค่าทำต่ำสุดรอบ 28 เดือน

โดยดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 0.35%

ด้านบีโอเจส่งสัญญาณคงดอกเบี้ย พร้อมระบุว่า จะเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยปราศจากความลังเล หากเศรษฐกิจญี่ปุ่นอ่อนแอ และกระทบให้เงินเฟ้ออยู่ต่ำกว่าเป้าหมาย 2%

· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้น นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี เนื่องจากเหล่านักลงทุน

เนื่องจากนักลงทุนให้ความสนใจไปยังผลประกอบการที่ชะลอตัวลงในไตรมาสก่อนหน้าและคาดว่าจะมีแนวโน้มฟื้นตัวในช่วงฤดูกาลที่กำลังจะมาถึง

โดยดัชนี Nikkei เพิ่มขึ้น 0.43% ที่ระดับ 21,709.31 จุด ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนครึ่ง ที่บริเวณ 21,823 จุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

นักลงทุนยังซื้อหุ้นเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับข้อจำกัด ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นระหว่างสหรัฐฯและจีนเกี่ยวกับประเด็นทางการค้าและเทคโนโลยี

· ตลาดหุ้นจีนปิดปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากเหล่านักลงทุนรอคอยการประชุมเฟดที่คาดว่าจะปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้

โดยดัชนี Shanghai Composite เพิ่มขึ้น 0.4% ที่ระดับ 2,952.34 จุด

เฟดมีกำหนดการประชุมในระหว่างวันที่ 30-31 ก.ค.นี้ ซึ่งตลาดคาดว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% ซึ่งหากดำเนินการจริงจะเป็นการปรับลดดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบศตวรรษ

หุ้นส่วนใหญ่ในตลาด STAR ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่มีกำไรเพิ่มขึ้น ขณะที่มีเพียง 1 ใน 25 บริษัทที่ปรับลดลงเล็กน้อย

· ตลาดหุ้นยุโรปเปิดปรับลงท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่ปรับพอร์ตพร้อมต่อการปรับลดดอกเบี้ยของเฟดที่น่าจะเกิดขึ้นในคืนวันพุธนี้ โดยดัชนี Stoxx600 เปิดปรับลง 0.2% ขณะที่ FTSE100 เปิดแดนลวก

ดัชนีหุ้นอนุพันธ์สหรัฐฯเปิดปรับตัวสูงขึ้นวันนี้ ก่อนทราบผลประชุมเฟด โดยดัชนี Dow Jones Futures ปรับขึ้น 35 จุด หลังจากที่เปิดบวกกว่า 41 จุด ทางด้าน S&P และ Nasdaq Futures เปิดปรับขึ้นเช่นกัน

นอกจากประชุมเฟดแล้ว ตลาดยังรอคอยข้อมูลค่าใช้จ่ายผู้บริโภคและค่าใช้จ่ายส่วนบุคคล ประกอบกับยอดขายบ้านที่รอปิดการขาย และความเชื่อมั่นผู้บริโภคในคืนนี้ด้วย

· สำนักข่าวอินโฟเควสท์

- นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงสวนทางตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่ที่เคลื่อนไหวในแดนบวก ซึ่งการย่อตัวลงสอดคล้องกับมุมมองของเราว่าในช่วงปลายเดือน ก.ค.จนถึงครึ่งแรกของเดือน ส.ค. ตลาดฯมีโอกาสย่อตัวลง เนื่องจากตอบรับปัจจัยธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปแล้ว ซึ่งก็มีโอกาสที่จะเกิดในระดับ 0.25% ไม่ได้สร้าง Surprise

นอกจากนี้ ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 2/62 คาดว่าจะออกมาค่อนข้างอ่อนแอ จะนำไปสู่ความกังวลเกี่ยวกับการปรับลดประมาณการลง ซึ่งทั้งสองปัจจัยดังกล่าว จึงต้องระวังการลงทุนในช่วงต้นเดือน ส.ค. และหลังจากที่ดัชนีฯได้ลงมาต่ำกว่าระดับ 1,715 จุด ทำให้ตลาดฯมีโมเมนตัมเป็นลบ และมี Downside ลงไปทดสอบแนวรับ 1,680-1,690 จุด กลยุทธ์ให้ระวังแรงขายทำกำไร และรอซื้อเมื่อดัชนีลงต่ำกว่าระดับ 1,700 จุด

- การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดให้เอกชนที่สนใจเข้ายื่นซองประมูลโครงการพัฒนาพื้นที่สถานีกลางบางซื่อ แปลง A