• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 31 กรกฎาคม 2562

    31 กรกฎาคม 2562 | Economic News

· ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้น และเคลื่อนไหวเป็นลักษณะ Wait&See ท่ามกลางเหล่าเทรดเดอร์ที่ผลลัพธ์ของประชุมเฟดในคืนนี้ และรอดูว่าเฟดจะเปิดกว้างต่อการปรับลดดอกเบี้ยในอนาคตอย่างไร ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว และปัญหา Trade War ที่เกิดขึ้น


เครื่องมือ FedWatch จาก CME แสดงให้เห็นว่ามีโอกาส 78% ที่จะเห็นเฟดลดดอกเบี้ย 0.25% แต่อีก 22% ยังเชื่อว่าจะมีโอกาสเห็นเฟดลดดอกเบี้ยมากถึง 0.50%


ดัชนีดอลลาร์ทรงตัวแถว 98.055 จุด หลังจากไปทำระดับสูงสุดรอบ 2 เดือนที่ 98.206 จุด ขณะที่ค่าเงินเยนทรงตัวที่ 108.575 เยน/ดอลลาร์ และค่าเงินยูโรทรงตัวที่ 1.1154 ดอลลาร์/ยูโร


ค่าเงินปอนด์ดิ่งลงสัปดาห์นี้ ท่ามกลางกลุ่มนักลงทุนที่ให้ความสำคัญกับโอกาสที่จะเห็นอังกฤษออกจากอียูโดยปราศจากข้อตกลง และน่าจะส่งผลต่อระบบเสถียรภาพของอังกฤษ จึงทำให้ปอนด์ร่วงลงทำต่ำสุดรอบ 28 เดือนเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาแถว 1.2120 ดอลลาร์/ปอนด์ ก่อนจะรีบาวน์มาแถว 1.2153 ดอลลาร์/ปอนด์


ปัญหาเรื่อง Brexit ดูจะส่งผลให้ค่าเงินปอนด์อ่อนค่าลง 4.3% ในเดือนก.ค.นี้ จากมุมมองที่ว่า นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษจะพาประเทศออกจากอียูแบบ No-Deal ในวันที่ 31 ต.ค.


· นักวิเคราะห์ FXStreet กล่าวว่า การเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีนดูจะหนุนให้ค่าเงินเยนแข็งค่ากลับลงมาแถว 108.5 เยน/ดอลลาร์ ประกอบกับนักลงทุนรอคอยประชุมเฟดในวันนี้ จึงทำให้ค่าเงินเยนแข็งค่ากลับลงมาไม่ได้มากนัก


ค่าเงินเยนค่อนข้างทรงตัวตลอดสัปดาห์ และค่อนข้างทรงตัวในกราฟราย 4 ชม. โดยยังยืนเนหือเส้นค่าเฉลี่ย SMA ราย 100 และ 200 ได้ ซึ่งภาพทางเทคนิคดูจะบ่งชี้ถึงภาวะอ่อนค่าและมีโอกาสเห็นเยนกลับขึ้นไปแตะ 109 เยน/ดอลลาร์ แต่หากหลุด 108.4 เยน/ดอลลาร์ ก็มีโอกาส Break กลับลงมาเป็นทิศทางแข็งค่าได้


แนวรับ: 108.40 108.00 107.65

แนวต้าน: 109.00 109.35 109.80

· นักวิเคราะห์จาก MUFG มองว่า หากเฟดปรับลดดอกเบี้ยลง 0.50% ก็จะส่งผลให้ตลาดการเงินมีความผันผวน แต่ก็ดูจะมีโอกาสไม่มากที่จะเห็นการเกิดสภาวะดังกล่าว แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากถ้อยแถลงของ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯที่ต้องการให้เฟดลดดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% ผ่านทางทวิตเตอร์ส่วนตัวของเขา

อย่างไรก็ดี ดอลลาร์มีโอกาสจะอ่อนค่ากลับมาได้อีกหากเฟดยังคงเดินหน้าปรับลดดอกเบี้ย หรือถ้อยแถลงใดๆของนายเจอโรม โพเวลล์ ประธานเฟดยังคงสะท้อนถึงความเสี่ยงขาลงต่อภาวะเศรษฐกิจโลก ที่น่าจะกลายมาเป็นปัจจัยจำกัดการปรับขึ้นของดอลลาร์

· รายงานจาก Reuters ระบุว่า วันนี้เจ้าหน้าที่ตัวแทนเจรจาการค้าระดับสูงของสหรัฐฯและจีนยังคงเดินหน้าเจรจากันต่อที่กรุงเซี่ยงไฮ้ เพื่อหาทางยุติ Trade War ที่มีมาอย่างยาวนาน แม้ว่าจะมีหลายฝ่ายคาดว่าความคืบหน้าจะอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯกล่าวตำหนิจีน

· ยอดค้าปลีกเยอรมันประจำเดือนมิ.ย.ปรับตัวสูงขึ้นมากกว่าที่คาดที่ระดับ 3.5% หลังจากที่ปรับลดลง 1.7% ในเดือนก่อนหน้านี้ ซึ่งภาพรวมรายเดือนเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 12 ปี โดย

เศรษฐกิจเยอรมันพึ่งพาการบริโภคภาคเอกชนและการก่อสร้างเพื่อการเติบโต ท่ามกลางแรหงนุนจากตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง อัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นประวัติการณ์และค่าแรงที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตามผลผลิตทางเศรษฐกิจคาดว่าจะหดตัวในไตรมาสที่สอง

· ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกัน 5 วันทำการ โดยได้รับแรงหนุนจากน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯที่ร่วงลงมากกว่าที่คาด รวมทั้งเหล่านักลงทุนกำลังรอคอยผลการประชุมเฟดในคืนนี้ ที่คาดว่าจะทำการปรับลดดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษ

น้ำมันดิบ Brent เพิ่มขึ้น 0.9% ที่ระดับ 65.29 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 0.7% ที่ระดับ 58.46 เหรียญ/บาร์เรล


โดยข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบลดลง 6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่ระดับ 443 ล้านบาร์เรลเมื่อเทียบกับความคาดหวังของนักวิเคราะห์ในการสำรวจของสำนักข่าว Reuters คาดว่า ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ จะปรับลดลงราว 2.6 ล้านบาร์เรล

ซึ่งต้องจับตาตัวเลขที่จะรายงานของสถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) ในวันพรุ่งนี้ หากเป็นไปตามคาด ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ จะปรับลดลงต่อเนื่องถึง 7 สัปดาห์

บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com