• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 1 สิงหาคม 2562

    1 สิงหาคม 2562 | Economic News

· ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าทำระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี เมื่อเทียบกับยูโร และทำระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนเมื่อเทียบกับเงินเยน หลังถ้อยแถลงของเฟดเมื่อคืน ไม่ได้ส่งสัญญาณถึงวัฏจักรการปรับลดดอกเบี้ยระยะยาว

ทั้งนี้ ตลาดยังคาดการณ์ว่า เฟดจะมีการปรับดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งภายในปีนี้ แต่ถ้อยแถลงของเฟดกดดันให้กระแสคาดการณ์ว่าเฟดจะมีการปรับลดดอกเบี้ยภายในปีหน้าด้วย เริ่มลดน้อยลงไป

· นักวิเคราะห์จาก Mizuho Securities ระบุว่า ถ้อยแถลงของเฟดไม่ได้ส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินครั้งสำคัญแต่อย่างใด จึงยืนยันถึงแนวคิดที่ว่า การปรับลดดอกเบี้ยครั้งนี้เป็นการปรับลดดอกเบี้ยเพื่อป้องกันความเสี่ยงให้กับเศรษฐกิจเท่านั้น ผลที่เกิดขึ้นกับตลาดจะเป็นการช่วยจำกัดไม่ให้ค่าเงินดอลลาร์ปรับร่วงลงไปมากนัก ขณะที่การปรับลดดอกเบี้ย แม้จะเป็นอัตราที่ไม่มาก แต่จะช่วยยืดวัฏจักรการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯต่อไปได้

· ค่าเงินยูโรอ่อนค่าสู่ระดับ 1.1034 ดอลลาร์/ยูโร ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดของวันที่ 16 พ.ค. ปี 2019 ก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยมาแถว 1.1045 ดอลลาร์/ยูโร แต่ภาพรวมยังเคลื่อนไหวในแดนลบประมาณ 0.2%

เมื่อเทียบกับเงินเยน ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าทะลุแนวต้านสำคัญที่ระดับ 109.00 เยน/ดอลลาร์ ขึ้นมาเคลื่อนไหวแถว 109.35 เยน/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน

ทางด้านดัชนีดอลลาร์ปรับแข็งค่า 0.3% ทำระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีที่ 98.932 จุด


· นักวิเคราะห์ FXStreet กล่าวว่า ค่าเงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นในตลาดเอเชีย หลังเฟดปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ตามคาด ท่ามกลางเทรดเดอร์ที่ลดมุมมองการปรับลดดอกเบี้ยของเฟด โดยเงินเยนอ่อนค่าไปทำระดับสูงสุดตั้งแต่ 31 พ.ค.

ค่างเินเยนทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดของวัน แม้ว่าจะยังไม่ Break เหนือ 109 เยน/ดอลลาร์ก็ตาม โดยภาพราย 4 ชั่วโมงสะท้อนว่ามีโอกาสเห็นเงินเยนผ่านไปได้ ขณะที่ภาพทางเทคนิคของค่าเงินเยนมีโอกาสทรงตัว แต่หากหลุดแนวรับลงมาก็มีโอกาสกลับแข็งค่าได้

แนวรับ: 108.40 108.00 107.65

แนวต้าน: 109.00 109.35 109.80

· นายจอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงระหว่างประเทศแห่งสหรัฐฯ ระบุว่า การทดสอบขีปนาวุธพิสัยระยะสั้นของเกาหลีเหนือเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ไม่ได้เป็นการระเมิดข้อตกลงที่ทางผู้นำเกาหลีเหนือให้ไว้กับประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่ทางเกาหลีเหนือยังคงไม่ได้ยืนยันว่าจะกลับมาเจรจากับสหรัฐฯในระดับปฏิบัติการอีกครั้งหรือไม่

ทั้งนี้ เกาหลีเหนือเมื่อวันอังคารและช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีการทดสอบยิงขีปนาวุธอีกครั้ง สร้างความกังวลให้กับทั่วโลกว่า การกลับมาเจรจาระหว่างสหรัฐฯ-เกาหลีเหนืออาจล่าช้าออกไป

· นักวิเคราะห์จากสถาบัน IIF มีมุมมองว่า การปรับลดดอกเบี้ยของเฟดยังไม่จบลงเท่านี้ โดยอ้างอิงถึงมในช่วงปี 1995 กับ ปี 1998 ซึ่งในแต่ละปีที่ยกมา เฟดมีการปรับลดดอกเบี้ยลง 0.75% ครั้งละ 0.25% รวม 3 ครั้ง ซึ่งใกล้เคียงกับคาดการณ์ของตลาดที่มองกันไว้สำหรับวัฏจักรการปรับลดดอกเบี้ยครั้งนี้ ดังนั้น จึงย้ำเตือนว่า ตลาดควรจะ “ใจเย็น” เนื่องจากภาพรวมของการส่งสัญญาณนโยบายการเงินที่ประธานเฟดกล่าวไว้ ค่อนข้างไปทางผ่อนคลาย มากกว่าที่จะเป็นการคุมเข้ม

· ธนาคารกลางจีนมีมติคงอัตราดอกเบี้ยในกาประชุมวันนี้ แม้ว่าเฟดจะประกาศลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อคืนที่ผ่านมาก็ตาม โดยธนาคารกลางระบุว่า จำเป็นต้องจับตาดูมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ทางรัฐบาลออก ว่ามีผลกระทบเช่นไรกับเศรษฐกิจเสียก่อน

อย่างไรก็ตาม ทางธนาคารกลางจีนระบุว่า หากเศรษฐกิจจำเป็นต้องได้รับแรงหนุนจากการใช้นโยบายการเงิน ทางธนาคารกลางก็จะมีการตอบสนองที่เหมาะสม ส่งผลให้ตลาดมีมุมมองว่า ธนาคารกลางจีนอาจผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติมในช่วงเดือนต่อๆไป หากแรงกดดันทางเศรษฐกิจยังคงมีอยู่

· รัฐบาลสหรัฐฯยืนยัน กำหนดการซ้อมรบร่วมระหว่างสหรัฐฯ-เกาหลีใต้ ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง และจะจัดขึ้นภายในเดือน ส.ค. ตามเดิม แม้ว่าทางเกาหลีเหนือจะมีการทดสอบยิงขีปนาวุธ พร้อมกดดันให้เกาหลีใต้ยกเลิกการซ้อมรบร่วมกับสหรัฐฯก็ตาม

ทั้งนี้ การซ้อมรบร่วมระหว่างสหรัฐฯ-เกาหลีใต้ ที่จะจัดขึ้นในเดือน ส.ค. นี้ ถูกเรียกว่า “ปฏิบัติการ Dong Maeng” ซึ่งจะเป็นการซ้อมรบที่มีขนาดเล็กกว่าการซ้อมรบเมื่อปีก่อน หรือที่เรียกว่า “ปฏิบัติการ Ulchi Freedom Guardian” ที่มีกำลังพลเข้าร่วมการซ้อมรบนับหลายพันชีวิต

· รัฐบาลอังกฤษจะเพิ่มค่าใข้จ่ายสำหรับการเตรียมรับมือกับกรณี No-deal Brexit เป็นมูลค่าเพิ่มเติมอีก 2.1 พันล้านปอนด์ เพื่อให้แน่ใจว่าอังกฤษจะถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปตามกำหนดการเดิม คือวันที่ 31 ต.ค. ไม่ว่าจะมีข้อตกลงหรือไม่มีก็ตาม

ทั้งนี้ ในถ้อยแถลงรับการรับตำแหน่งของนายซาจิด จาวิด รัฐมนตรีกระทรวงการคลังอังกฤษคนใหม่ ได้ระบุว่า งบประมาณเพิ่มเติมดังกล่าวจะครอบคลุมไปยังการเตรียมเวชภัณฑ์ที่สำคัญๆ การช่วยเหลือชาวอังกฤษที่พักพิงอยู่ต่างประเทศ และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในสถานที่โดยรอบท่าเรือ

· เอกอัคราชทูตสหรัฐฯประจำเยอรมนี กล่าวต่อว่ารัฐบาลของนางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี จากกรณีที่รัฐบาลลังเลที่จะเข้าร่วมปฏิบัติการร่วมในพื้นที่ช่องแคบฮอร์มุซ โดยระบุว่าทางเยอรมนี ซึ่งเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป จำเป็นต้องแสดงความรับผิดชอบต่อปัญหาระดับโลกครั้งนี้มากขึ้น

เมื่อวานนี้ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศแห่งเยอรมนี เลี่ยงการตอบรับคำเชิญชวนของสหรัฐฯ สำหรับการเข้าร่วมปฏิบัติการทางทะเลร่วมที่มีสหรัฐฯเป็นฝ่ายนำ ในพื้นที่ช่องแคบฮอร์มุซ ใกล้ประเทศอิหร่าน โดยระบุว่า เยอรมนีต้องการที่จะให้ความขัดแย้งกับอิหร่านผ่อนคลายลง และทุกการดำเนินการใดๆ ควรหลีกเลี่ยงการทำให้ความขัดแย้งดังกล่าวเลวร้ายลง

· รัฐบาลสหรัฐฯประกาศคว่ำบาตรนายจาวัด ซาริฟ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศแห่งอิหร่าน ซึ่งอาจทำให้ทั้ง 2 ประเทศอาจไม่สามารถกลับมาเจรจาร่วมกันได้ ท่ามกลางความสัมพันธ์ของทั้งสองที่ยังอยู่ในภาวะตึงเครียด

การคว่ำบาตรครั้งนี้ จะกีดกันไม่ให้นายซาริฟเข้าถึงทรัพย์สินหรือผลประโยชน์ใดๆที่อยู่ในสหรัฐฯได้ ขณะที่ที่นายซาริฟออกมากล่าวว่า เขาไม่มีทรัพย์สินใดอยู่ในสหรัฐฯ การคว่ำบาตรครั้งนี้จึงไม่มีผลกระทบต่อตัวเขาหรือครอบครัวแม้แต่น้อย รวมถึงไม่มีความสนใจทรัพย์สินใดๆนอกเหนือจากในอิหร่าน พร้อมกล่าวขอบคุณที่ทำให้เขากลายเป็นภัยคุกคามต่อแผนงานของรัฐบาลสหรัฐฯ

· ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงเป็นคัร้งแรกในรอบ 6 วัน หลังจากเฟดประกาศปรับลดดอกเบี้ยเมื่อคนที่ผ่านมา และการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่ยังไม่ม่ีความคืบหน้า

น้ำมันดิบ Brent ลดลง 1% ที่ระดับ 64.43 เหรียญ/บาร์เรล ขณะที่น้ำมันดิบ WTI ลดลง 1.2% ที่ะรดับ 57.91 เหรียญ/บาร์เรล

ผลสำรวจรายเดือนจาก Reuters คาดว่าราคาน้ำมันจะเคลื่อนไหวในกรอบนี้ไปตลอดทั้งปี เนื่องจากการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและข้อพิพาททางการค้าที่ยืดเยื้อระหว่างสหรัฐฯและจีนทำให้ความต้องการลดลง

ขณะเดียวกันการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนไม่มีสัญญาณความคืบหน้าที่ชัดเจน โดยสหรัฐฯและจีนจะกลับมาเจรจาการค้ากันอีกครั้งในช่วงต้นเดือนก.ย. ณ กรุงวอชิงตัน หลังจากที่ทั้งสองประเทศต่างหารือถึงการที่จะจีนจะเพิ่มการเข้าซื้อสินค้าเกษตรของสหรัฐฯ ในการเจรจาล่าสุดที่เซี่ยงไฮ้ ที่ผ่านมา


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com