· ราคาทองคำปรับพุ่งขึ้นเกือบ 2% หลังจากวานนี้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่จะเพิ่มภาษีสินค้านำเข้าจากจีนอีก 10% มูลค่า 3 แสนล้านเหรียญ โดยมีผลในวันที่ 1 ก.ย. นี้ จึงทวีความตึงเครียดของสงครามการค้าครั้งใหม่ระหว่างสหรัฐฯและจีนอีกครั้ง และกดดันให้ดอลลาร์ร่วงจากระดับสูงสุดรอบ 2 ปี และทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวลงเช่นกัน
· ราคาทองคำปรับขึ้น 1.9% ที่ 1,440.02 เหรียญ ขณะที่สัญญาทองคำปิดปรับขึ้นเกือบ 1% แถว 1,450.9 เหรียญ
· กองทุนทองคำ SPDR เข้าซื้อทองเพิ่ม 4.4 ตัน ที่ระดับ 827.82 ตัน
· ขณะที่ราคาพลาเดียมดิ่งลงกว่า 6% จากแรงขายทางเทคนิคและแรงกดดันจาก Trade War ที่กดดันให้ราคาทำต่ำสุดรอบ 7 สัปดาห์ บริเวณ 1,410 เหรียญ ก่อนจะปิด -6.3% ที่ระดับ 1,420.53 เหรียญ
· นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Kitco กล่าวว่า การที่ทรัมป์ประกาศจะขึ้นภาษีจีนเพิ่มดูจะกดดันดัชนีดอลลาร์และทำให้มีการเข้าถือครอง Safe-Haven เพิ่มขึ้นมาบางส่วนในตลาดทองคำ โดยช่วงต้นตลาดจะเห็นได้ว่าทองคำทำต่ำสุดที่1,400.31 เหรียญ ซึ่งเป็นต่ำสุดเมื่อ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา จากดอลลาร์แข็งค่า หลังเฟดลดความคาดหวังของกลุ่มนักลงทุนต่อประเด็นการผ่อนคลายนโยบายทางการเงิน
อย่างไรก็ดี ทองคำยังยืนเหนือระดับสำคัญ 1,400 เหรียญได้ และกลุ่มนักลงทุนก็ดูจะทำการเข้าซื้อในลักษณะ Buy the dips
· หัวหน้านักกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์จาก TD Securities ระบุว่า นักลงทุนบางส่วนตอบรับกับสถานการณ์ความเป็นจริงในปัจจุบัน โดยเฟดเองก็ยังคงมีความกำกวมว่าจะผ่อนคลายทางการเงินอย่างไร
· กลุ่มนักลงทุนรอคอยการประกาศข้อมูลจ้างงานของรัฐบาลสหรัฐฯคืนนี้
· ราคาแพลทินัมปิด -1% ที่ 851.09 เหรียญ ขณะที่ราคาซิลเวอร์ -0.1% ที่ 16.24 เหรียญ