ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วง 280.85 จุด ที่ระดับ 26,583.42 จุด หลังที่ช่วงต้นตลาดกลับมาฟื้นตัวได้มากถึง 311 จุด ทางด้านดัชนี S&P 500 ปิด -0.9% ที่ระดับ 2,953.56 จุด หลังช่วงต้นเปิด +1% และ Nasdaq ปิด -0.8% ที่ 8,111.12 จุด หลังช่วงต้นตลาดปรับขึ้นกว่า 1.6%
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวลงจากการที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขู่จะขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจีนเพิ่ม
นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานทธิบดีสหรัฐฯ ทวิตเตอร์ข้อความที่มีใจความว่าจะขึ้นภาษีจีนอีก 10% มูลค่า 3 แสนล้านเหรียญ โดยมีผลบังคับใช้ 1 ก.ย. นี้
· ดัชนีมาตรวัดความผันผวนของตลาด หรือ VIX ปรับพุ่งขึ้นกว่า 8.7% ที่ระดับ 17.57 จุด
· กลุ่มนักลงทุนยังคงรอคอยการประกาศข้อมูลการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของรัฐบาลสหรัฐฯในคืนวันนี้ โดยผลสำรวจจาก Dow Jones คาดจะเห็นสหรัฐฯมีการจ้างงานเพิ่มราว 165,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ที่ผ่านมา
· หุ้นยุโรปปิดปรับขึ้นขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งจึงช่วยชดเชยท่าทีที่ดูคุมเข้มต่อการดำเนินนโยบายการเงินของเฟดลงไปได้บ้าง โดยดัชนี Stoxx 600 ปิด +0.41% จากหุ้นกลุ่มการเงินที่ปรับขึ้นเกือบ 2.2% และหุ้นทรัพยากรที่ปิด +3.2%
สำหรับสถานการณ์ในอังกฤษล่าสุด ทางบีโออีมีมติเอกฉันท์ในการคงดอกเบี้ยที่ระดับ 0.75% พร้อมปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลก จากความกังวลที่เพิ่มขึ้นต่อกรณี Brexit และการชะลอตัวลงทางเศรษฐกิจโลก
อย่างไรก็ดี บีโออีไม่ได้ให้สัญญาณชี้นำว่าจะมีการปรับลดดอกเบี้ยหรือไม่ แต่ก็มีการคาดหวังว่าอังกฤษจะสามารถหลีกเลี่ยงสภาวะเสี่ยงจาก Brexit ได้ ขณะที่คาดการณ์เศรษฐกิจ บีโออีหั่นคาดการณ์ปีนี้และปีหน้าลง โดยปีนี้คาดจะเติบโตที่ 1.3% จาก 1.5% และปีหน้าคาดจะอยู่ที่ 1.3% เช่นกัน จากคาดการณ์เดิมที่ 1.6%
ค่าเงินปอนด์ร่วงลง 0.5% และยังคงมีแนวโน้มอ่อนค่าต่อ แม้ว่าจะยืนได้เหนือ 1.21 ดอลลาร์/ปอนด์ ก่อนจะทรงตัวในช่วงทราบผลประชุมบีโออี
· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลง หลังจากการที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขู่จะขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจีนเพิ่ม
โดยดัชนี Nikkei ร่วงลง 1.86% เนื่องจากดัชนีหลักและผู้ผลิตหุ่นยนต์ Fanuc ลดลงมากกว่า 3% ด้านดัชนี Topix ก็ลดลง 1.62%
ดัชนี Kospi เกาหลีใต้ ลดลง 1.23% ด้านหุ้นอุตสาหกรรม Samsung Electronics ลดลง 1.22% และ SK Hynix ลดลง 2.32%
S&P/ASX 200 ของออสเตรเลียลดลง 0.46% เนื่องจากดัชนีพลังงานลดลงมากกว่า 2%
ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่นลดลง 0.51
· นักบริหารเงิน ระุบว่า วันนี้ค่าเงินบาทยังมีแนวโน้มอ่อนค่า คาดเคลื่อนไหวในกรอบ 30.75 - 30.95 บาท/ดอลลาร์ โดยตลาดค่อนข้างผิดหวังกับถ้อยแถลงของประธานเฟด ซึ่งไม่มีความชัดเจนว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอย่างต่อเนื่องหรือไม่ ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังไม่มีผลกับการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทมากนัก