· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน เนื่องจากประเด็นสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนส่งผลให้ค่าเงินหยวนร่วงลงมากที่สุดในรอบทศวรรษ รวมทั้งเหล่านักลงทุนกลัยเข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัย อย่างเช่น ค่าเงินเย็น พันธบัตรรัฐบาล และทองคำ
โดยตลาดหุ้นได้รับผลกระทบนับตั้งแตานายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯสร้างเซอร์ไพร์สตลาดด้วยการประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจีนมูลค่า 3 แสนล้านเหรียญ จึงยิ่งตอกย้ำความระอุของข้อขัดแย้งทางการค้าระหว่าง 2 ชาติมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ที่ไม่รวมหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 2.5% ซึ่งเป็นการร่วงลงที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนับตั้งแต่ปลายเดือนม.ค.ที่ผ่านมา
· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลง เนื่องจากเหล่านักลงทุนเริ่มกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าของสหรัฐฯและจีนที่ยืดเยื้อ ขณะที่ค่าเงินเยนที่ปรับแข็งค่าขึ้นส่งผลกระทบต่อกลุ่มส่งออก อย่างเช่น Panasonic และ Daikin
โดยดัชนี Nikkei ลดลง 1.7% ที่ระดับ 20,720.29 จุด หลังจากที่ร่วงลงไป 2.1% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 มิ.ย.
· ค่าเงินหยวนจีนอ่อนค่าหลุดระดับ 7 หยวน/ดอลลาร์เป้นครั้งแรกในรอบทศวรรษ เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่ารัฐบาลจีนจะยอมรับแรงกดดันจากค่าเงินที่อ่อนค่าเพื่อรับมือสงครามการค้ากับสหรัฐฯ ส่งผลให้ให้ตลาดหุ้นปรับตัวลดลง
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยังเผชิญแรงกดดันจากตลาดฮ่องกงที่อยู่ในภาวะอัมพาต หลังการชุมนุมประท้วงขยายตัวรุนแรง และประชาชนพร้อมใจกันหยุดงาน โดยดัชนี Hang Seng ของฮ่องกงปิด -2.70% ขณะที่ดัชนี Shanghai Composite ปิด -1.62% ที่ระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 22 ก.พ.
· ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลง ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับประเด็นสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน โดยดัชนี Stoxx600 ลดลงประมาณ 1% ด้านหุ้นทรัพยากรลดลง 2.5% เนื่องจากหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนลบ
สำนักข่าวอินโฟเควสท์
· ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในการประชุมครั้งที่ 5 ของปี 2562 ในวันที่ 7 สิงหาคม 2562 น่าจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.75% โดยมองว่า กนง.ยังคงให้น้ำหนักกับปัจจัยความเสี่ยงเชิงเสถียรภาพในระบบการเงิน ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่แม้จะมีแรงส่งชะลอลง แต่ยังคาดหวังผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในครึ่งปีหลังที่จะประคองภาพรวมเศรษฐกิจไทยให้ปรับดีขึ้นจากครึ่งแรกของปี
· นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยภายหลังนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มอบนโยบายแก่ผู้บริหารกระทรวงการคลังว่า กระทรวงการคลังเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นแพคเกจใหญ่ภายในเดือนสิงหาคมนี้โดยหวังจะส่งผลให้เศรษฐกิจเป็นบวก
สำหรับมาตรการที่จะออกมาจะเน้นดูแลคนทุกกลุ่มตั้งแต่ระดับฐานราก ทั้งเกษตรกร ที่เได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ผู้ค้าขายในระดับชุมชุม รวมถึงผู้ประกอบการรายเล็ก รายย่อย หรือกลุ่มสตาร์ทอัพ รวมถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยวในภาพรวม ไม่ใช่เฉพาะในเมืองรอง
"มาตรการที่ออกมาต้องแรง ถ้าทำแล้วหวังให้ได้ผลจริงจัง ส่งผลเศรษฐกิจในเชิงบวก...เสนอเป็นแพคเกจใหญ่"นายอุตตม กล่าว
อย่างไรก็ตาม รมว.คลัง ยังไม่ขอประเมินว่า มาตรการที่จะออกมาจะส่งผลให้ GDP ปี 63 ไม่ต่ำกว่า 3 % หรือไม่ โดยขอรอดูมาตรการทั้งหมดก่อน ซึ่งจะมีการประเมินตัวเลขงบประมาณ และการคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจด้วย ซึ่งอาจจะโตเกิน 3 % ก็เป็นได้
ทั้งนี้ มาตรการที่จะออกมา จะมีการนำเข้าสู่ที่ประชุมครม.เศรษฐกิจได้พิจารณาก่อน โดยจะใช้เม็ดเงินจากงบประมาณ ปี 62 ที่เหลือไปพลางก่อน
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
· หุ้นไทยกังวลระเบิดป่วนกรุง - สงครามการค้ารอบใหม่ปะทุ ปิดดิ่ง 15 จุด ระหว่างวันลงลึกถึง 27.78 จุด ผจก.ตลาดหลักทรัพย์ฯยันเหตุไม่สงบในประเทศกระทบจิตวิทยาระยะสั้น พื้นฐานหุ้นไทยยังไม่เปลี่ยน ฝั่งคลังการันตีไม่กระทบความเชื่อมั่นนักลงทุนและ จีดีพี ด้านโบรกฯชี้ยังไม่น่าห่วง เพราะแนวรับระดับ 1,670 จุด ยังยันไหว แต่กังวล กลุ่มท่องเที่ยว และศูนย์การค้า ได้รับผลกระทบแน่นอน แนะถือเงินสด หรือลงทุนหุ้นกลุ่มที่แกร่งกว่าตลาด