· ค่าเงินหยวนแข็งค่าขึ้นจากการที่ธนาคารกลางจีนเข้ารักษาเสถียรภาพของค่าเงินหยวนหลังจากที่ Break ระดับสำคัญทำให้เกิดความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงลดลง ขณะที่วันนี้ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างเงินเยนและค่าเงินสวิสฟรังก์ที่ลดลง โดยค่าเงินหยวนแข็งค่ามากกว่าที่หลายฝ่ายคาดไว้ที่ 6.9871 หยวน/ดอลลาร์ มาที่ 6.9683 หยวน/ดอลลาร์ ต่ำกว่าระดับสำคัญ 7 หยวนที่ขึ้นไปวันก่อน โดยธนาคารกลางจีน กล่าวว่า การอ่อนค่าของหยวนมาจากแรงขายพันธบัตรอย่างหนักในฮ่องกง ประกอบกับลดลงของแรง Short Selling
ขณะที่เช้านี้ ธนาคารกลางจีนปรับค่ากลางเงินหยวนอ่อนมาแตะ 6.9996 หยวน/ดอลลาร์ ซึ่งอ่อค่ากว่าที่หลายฝ่ายคาดไว้
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบเงินเยนในช่วงเปิดตลาดวันนี้ โดยตลาดยังคงกังวลต่อสงครามการค้าสหรัฐฯและจีน ท่ามกลางความผันผวนในตลาดค่าเงินในช่วงนี้ โดยค่าเงินเยนอ่อนค่าลงแตะ 0.3% ที่ 106.16 เยน/ดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินเยนแข็งค่าทำต่ำสุดที่ 105.51 เยน/ดอลลาร์
ดัชนีดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 0.37% ที่ 97.581 จุด ทางด้านยูโรทรงตัวที่ 1.1202 หยวน/ดอลลาร์
· อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯอายุ 10 ปีทรงตัว หลังจากที่ Break ลงต่ำกว่า 1.7% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่ร่วงลงไปทำต่ำสุดตั้งแต่ปี 2016 โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ปรับลงแตะ 1.716% หลังทำ Low ที่ระดับ 1.672% ทางด้านผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปี ปรับลงต่ำกว่า 2.246%
· ธนาคารกลางจีนเสียงแข็ง ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯกระทำการกล่าวหาว่าจีนมีการปั่นค่าเงิน พร้อมระบุว่า ข้อกล่าวหาอย่างจริงจังดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินระหว่างประเทศ และสร้างความเสี่ยงให้เกิดความปั่นป่วนในตลาดด้วย
· รายงานจาก CNBC ระบุว่า ภาคการเกษตรถือเป็นอาวุธชั้นดีสำหรับทางเลือกสร้างความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน โดยทางการจีนถอนการเข้าซื้อสินค้าเกษตรสหรัฐฯเพิ่ม จึงทำให้เกษตรกรสหรัฐฯสูญเสียกลุ่มผู้บริโภครายใหญ่ที่สุดไป และนี่จะเป็นความเสียหายอย่างหนักตลอดปีนี้ต่อราคาพืชผลและสินค้าโภคภัณฑ์ และอาจเป็นอุปสรรคต่อจีดีพีสหรัฐฯ รวมทั้งส่งผลกระทบต่อกลุ่มบริษัทต่างๆ อาทิ Deere ที่เป็นธุรกิจตรงทางด้านการเกษตรในเมืองHeartland
ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยนโยบายด้านอาหารและการเกษตรจากมหาวิทยาลัยมิสซูรี กล่าวว่า ยอดขายสินค้าเกษตรลดลงตลอดปีนี้จากนโยบายขึ้นภาษีที่เกิดขึ้น และหากเราไม่สามารถส่งออกอะไรไปยังประเทศจีนได้เลย ก็จะเป็นผลกระทบขนาดใหญ่ต่อตลาดและราคาสินค้า ซึ่งการตัดลดการนำเข้าสินค้าเกษตรจากทางจีนดูจะเป็นข้อตกลงที่ค่อนข้างใหญ่เช่นกัน
จีนมีการเพิ่มการเข้าซื้อสินค้าเกษตรของสหรัฐฯเป็นมูลค่า 5.9 พันล้านเหรียญในปีที่แล้ว โดยมีการเข้าซื้อถั่วเหลืองมากถึง 60% ของการส่งออกถั่วเหลืองสหรัฐฯทั้งหมดในปีที่แล้วเช่นกัน ดังนั้น ความเคลื่อนไหวล่าสุดมีโอกาสเห็นราคาถั่วเหลือตกลง 9% จากสงครามการค้าที่เริ่มต้นขึ้นในเดือนก.ค.
· สำนักข่าว KCNA ของเกาหลีเหนือ เผยว่า นายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ กล่าวว่า การยิงขีปนาวุธเมื่อวานนี้เป็นการกล่าวเตือนสหรัฐฯและเกาหลีใต้ที่ยังคงร่วมฝึกซ้อมรบทางทหารร่วมกัน
นายจอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ กล่าวถึงการที่ผู้นำเกาหลีเหนือได้ให้คำมั่นกับ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯในการจะไม่กลับไปยิงขีปนาวุธใดๆ หลังจากที่เกาหลีเหนือมีการยิงขีปนาวุธพิสัยระยะสั้นเป็นอย่างน้อย 4 ครั้งในช่วง 2 สัปดาห์นี้ พร้อมกล่าวเตือนว่าหากดำเนินการต่อไปอาจต้องเผชิญกับเส้นทางใหม่ได้
· ราคาน้ำมันดิบปรับลง ขณะที่น้ำมันดิบ Brent เคลื่อนไหวใกล้ต่ำสุดรอบเกือบ 7 เดือน และปิดต่ำกว่า 60 เหรียญ/บาร์เรล เนื่องจากความตึงเครียดสหรัฐฯและจีนที่เพิ่มขึ้น โดยน้ำมันดิบ Brent ปรับร่วงลงไปกว่า 9% ในสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากที่นายทรัมป์ประกาศการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าครั้งใหม่
น้ำมันดิบ Brent ปิดลดลง 58 เซนต์ ที่ 59.23 เหรียญ/บาร์เรล และไปทำต่ำสุดตั้งแต่ 14 ม.ค. ที่ 59.07 เหรียญ/บาร์เรล ทางด้านน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 78 เซนต์ ที่ระดับ 53.92 เหรียญ/บาร์เรล