MTS Help Center

· ตลาดหุ้นสหรัฐฯรีบาวน์จากระดับต่ำสุดของวัน หลังจากที่ธนาคารกลางจีนมีแผนกำหนดค่ากลางเงินหยวนให้แข็งค่าขึ้น จึงช่วยลดความตึงเครียดจากหยวนที่อ่อนค่าลงหนักเมื่อวันก่อนจากกระแสที่ว่าจีนจะใช้เงินหยวนมาเป็นอาวุธในสงครามการค้า

ดัชนีดาวโจนส์ปิด +311.78 จุด ที่ระดับ 26,029.52 จุด ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิด +1.3% ที่ระดับ 2,881.77 จุด และ Nasdaq ปิด +1.4% ที่ 7,833.27 จุด และถือเป็นครั้งแรกในรอบ 7 วันทำการที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปรับตัวขึ้น

· ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลดลง หลังจากที่ธนาคารกลางจีนกำหนดค่ากลางหยวนแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อวานนี้ ซึ่งช่วยคลายความกังวลที่ว่า จีนจะใช้ค่าเงินหยวนเป็นเครื่องมือใหม่ในการต่อสู้ด้านการค้ากับสหรัฐฯ โดยดัชนี Stoxx600 ลดลง 0.4%

· ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวผสมผสานกัน ท่ามกลางเหล่านักลงทุนกำลังรอคอยธนาคารกลางจีนเพื่อกำหนดจุดกึ่งกลางประจำวันสำหรับหยวนจีน

โดยเช้านี้ดัชนี Nikkei ลดลง 0.49% ขณะทีดัชนีหลักๆและผู้ผลิตหุ่นยนต์ Fanuc ลดลง 1.07% ด้านดัชนี Topix ลดลง 0.29%

· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- นักบริหารการเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทวันนี้ไว้ที่ระหว่าง 30.65-30.80 บาท/ดอลลาร์ โดยตลาดยังคงจับตาทิศทางการเคลื่อนไหวของค่าเงินหยวนเป็นหลัก หลังธนาคารกลางจีนจะตรึงค่าเงินหยวน ทำให้เงินหยวนมีเสถียรภาพมากขึ้น สำหรับปัจจัยสำคัญคือการประชุมกนง.วันนี้คาดว่าจะคงดอกเบี้ย แต่ต้องมาดูรายละเอียดของผลการประชุมว่าจะมีการส่งสัญญาณเกี่ยวกับเศรษฐกิจอย่างไร

- ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีไทย (ครม.) มีมติเห็นชอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณปี 63 จำนวน 3,200,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณปี 62 ที่กำหนดไว้ 3,000,000 ล้านบาท เป็นจำนวน 200,000 ล้านบาท หรือเพิ่ม ขึ้น 6.7% โดยกำหนดนโยบายงบประมาณขาดดุล จำนวน 469,000 ล้านบาท

- นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีไทย แสดงความเป็นห่วงต่อผลกระทบเศรษฐกิจของไทยจากเหตุการณ์ชุมนุมประท้วงในเกาะฮ่องกง ซึ่งพบว่ามีผลกระทบเล็กน้อยมายังตลาดหุ้นไทย และเห็นการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินหยวนและค่าเงินบาท โดยนายสมคิดได้ฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันดูแลและติดตามสถานการณ์ รวมทั้งเตรียมมาตรการรองรับไว้ต่อไป

- รมว.คลังไทย พร้อมพูดคุยกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจ โดยจะดำเนินนโยบายทั้งด้านการเงินและการคลังให้สอดคล้องกัน

- สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) ยังคงคาดการณ์ส่งออกปีนี้ -1% แต่แนวโน้มการส่งออกในปีนี้มีโอกาสหดตัวลดลงมากกว่า -1% โดยจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

- พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมไทย จะเป็นประธานการประชุมชี้แจงนโยบายรัฐบาลต่อผู้บริหารระดับสูงกว่า 800 คน ในวันที่ 8 ส.ค.นี้ โดยผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วยรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ข้าราชการการเมือง ปลัดกระทรวง รองปลัดกระทรวง หัวหน้าส่วนราชการที่ขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรี อธิบดี ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้บริหารหัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน หน่วยงานอิสระ ผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้แทนพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล

- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในการประชุมครั้งที่ 5 ของปี 2562 ในวันที่ 7 สิงหาคม 62 น่าจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.75% โดยมองว่า กนง.ยังคงให้น้ำหนักกับปัจจัยความเสี่ยงเชิงเสถียรภาพในระบบการเงิน ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่แม้จะมีแรงส่งชะลอลง แต่ยังคาดหวังผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในครึ่งปีหลังที่จะประคองภาพรวมเศรษฐกิจไทยให้ปรับดีขึ้นจากครึ่งแรกของปี