• สรุปข่าวราคาทองคำ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 7 สิงหาคม 2562

    7 สิงหาคม 2562 | Gold News

· วันนี้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นในรอบกว่า 6 ปี ท่ามกลางความตึงเครียดต่อภาวะสงครามการค้าที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐฯและจีน ที่ไม่มีสัญญาณเชิงบวกใดๆ จึงสนับสนุนให้เกิดความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย


· ราคาทองคำตลาดโลกปรับขึ้น 0.9% ที่ระดับ 1,486.41 เหรียญ หลังจากระหว่างวันไปทำ High ที่ 1,491 เหรียญ ซึ่งเป็นสูงสุดตั้งแต่ช่วงปี 2013


· สัญญาทองคำส่งมอบเดือนธ.ค. ปรับขึ้น 0.9% ที่ระดับ 1,497.90 เหรียญ


· นักกลยุทธ์ค่าเงินอาวุโสจาก DailyFX วิเคราะห์ว่า สงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้นครั้งล่าสุดดูจะลุกลามมากขึ้นและจุดประกายความกังวลว่าสถานการณ์จะยิ่งยืดเยื้อและเข้ากระทบกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ


· ผลสำรวจจากรอยเตอร์ส บ่งชี้ว่า ยอดส่งออกจีนมีแนวโน้มจะลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ในเดือนก.ค. จากความตึงเครียดของสงครามการค้าที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ยอดนำเข้าคาดจะตกลงในเดือนก.ค.เช่นกัน จึงสะท้อนว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนอาจล้มเหลวในความพยายามผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจ


· นักวิเคราะห์จาก Goldman Sachs เชื่อว่า สหรัฐฯและจีนจะไม่สามารถตกลงกันได้ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในช่วงเดือนพ.ย. ปีหน้า ขณะที่ Morgan Stanley เตือนว่า ความยืดเยื้อของสงครามการค้าจะฉุดให้เศรษฐกิจทั่วโลกเข้าสู่สภาวะถดถอยในช่วงกลางปีหน้า


· สมาชิกเฟดมีการกล่าวแสดงความคิดเห็นเมื่อวานนี้ ว่าเป็นการเหมาะสมที่เฟดจะใช้กลยุทธ์ “Wait&See” เพื่อรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่จะมาถึง ก่อนการตัดสินใจเรื่องดอกเบี้ยอีกครั้งว่าจะลดเพิ่มหรือไม่ในการประชุมเดือนก.ย.


· ความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกกระจายตัวไปทั่ว โดยล่าสุดธนาคารกลางนิวซีแลนด์ทำการปรับลดดอกเบี้ยมากกว่าที่คาดการณ์


· อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯอายุ 10 ปีปรับตัวลงใกล้ระดับต่ำสุดรอบเกือบ 3 ปี


· นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจากรอยเตอร์ส กล่าวว่า ในทางเทคนิคราคาทองคำอาจกลับทดสอบแนวต้าน 1,497 เหรียญ และหาก Break ไปได้มีโอกาสเห็นทองขึ้นไป 1,524 เหรียญ

· นักเศรษฐศาสตร์จาก Oversea-Chinese Banking Corporation ระบุว่า ทองคำยังอยู่ในทิศทางที่แข็งแกร่งและจะอยู่อย่างยาวนานไปอีก 1 ปีข้างหน้า และหลังจากที่ราคาทรงตัวแถว 1,495 เหรียญได้ในตลาดเอเชียก็ดูทิศทางทองจะยิ่งสดใสมีโอกาสพุ่งแตะ 1,500 เหรียญ ท่ามกลางสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเวลานี้ที่ดูจะเป็นบวกต่อทองคำ ทั้งการปรับลดดอกเบี้ย, การอ่อนค่าของดอลลาร์, ความตึงเครียดทางการค้า และความตึงเครียดทางการเมืองต่างๆ รวมถึงสถานการณ์ในอ่าวเปอร์เซียด้วย ที่กลายเป็นความเชื่อมโยงกันทั้งหมด และส่งผลให้บรรดานักลงทุนพากันเทขายสินทรัพย์เสี่ยงในพอร์ต และตลาดเข้าสู่ ภาวะ Risk-Off เพื่อเข้ามาเพิ่มการถือครองในทองคำ


· นักวิเคราะห์จาก DailyFX ระบุว่า ทองคำยังคงเป็นทิศทางขาขึ้นได้อย่างแข็งแกร่ง โดยได้รับอานิสงส์เชิงบวกจากฐานะ Safe-Haven จากประเด็นความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ที่ยังคงดำเนินต่อไป และจะเป็นปัจจัยที่เข้ากดดันให้เฟด รวมทั้งบรรดาธนาคารกลางอื่นๆต้องเดินหน้าใช้นโยบายปรับลดดอกเบี้ยเพื่อรับมือกับความผันผวนทางเศรษฐกิจและความไม่แน่นอนที่เพิ่มมากขึ้นในตลาด


จะเห็นได้ว่า ราคาองคำได้รับอานิสงส์เชิงบวกจนไปทำระดับสูงสุดรอบหลายปี โดยทองคำที่มีระดับการซื้อขายบริเวณ 1,470 เหรียญ ซึ่งเป็นสูงสุดตั้งแต่พ.ค. ปี2013 ก็ยังคงมีการปรับขึ้นได้อีกแม้ว่าจะมีบางจังหวะที่เห็นทองคำอ่อนตัวลงก็ตาม


· ทั้งนี้ หลังจากที่ราคา Breakout เหนือ 1,435 เหรียญได้ ก็ดูเหมือนภาพทางเทคนิคของทองคำจะสดใสยิ่งขึ้น โดย ณ ขณะนี้ทองคำดูจะเทรดเคลื่อนไหวใกล้แนวเส้นค่าเฉลี่ย SMA ราย 20 วัน และโดยปกติการปรับขึ้นลักษณะนี้อาจเผชิญกับแรงเทขายทำกำไรเข้ามาได้บ้างเพื่อทำกำไร เราจึงเห็นระยะสั้นๆทองคำอาจอ่อนตัวกลับลงมาได้

· บรรดาเทรดเดอร์มองโอกาส 100% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยลงในเดือนก.ย. ด้วยอัตราที่มากถึง 0.75% หลังจากที่การประชุมล่าสุดปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% สู่กรอบ 2.00 - 2.25%

· ราคาซิลเวอร์ปรับขึ้น 1.7% ที่ระดับ 16.73 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่ มิ.ย. ปี 2018

· ราคาแพลทินัมปรับขึ้น 1% ที่ 855.76 เหรียญ และราคาพลาเดียมปรับลง 0.1% ที่ 1,436.34 เหรียญ


บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com