ราคาทองคำปรับขึ้นได้ 0.7% แถว 1,521.98 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย. ปี 2013 ทางด้านราคาสัญญาทองคำปรับสูงขึ้น 1% แถว 1,533 เหรียญ
· นักวิเคราะห์จาก Daily FX ระบุว่า การปรับตัวขึ้นของราคาทองคำ จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเกิดจากการเลี่ยงถือครองสินทรัพย์เสี่ยง ท่ามกลางปัญหาทางการเมืองในอาร์เจนตินาและฮ่องกง รวมถึงสัญญาณการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ขณะที่บรรดาธนาคารกลางเริ่มที่จะหมดเครื่องมือในการช่วยเหลือเศรษฐกิจของประเทศตนเองเนื่องจากส่วนใหญ่มีระดับดอกเบี้ยใกล้ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
· กลุ่มผู้ชุมนุมในฮ่องกงประสบความสำเร็จในการปิดสนามบินนานาชาติของฮ่องกง ซึ่งเป็นสนามบินที่มีการขนส่งสินค้าทางอากาศคึกคักมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก จากเดิมที่ประท้วงเริ่มขึ้นจากการต่อต้านการผลักดันร่างกฏหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนของรัฐบาล ได้ขยายตัวกลายเป็นการประท้วงเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย
ในอีกฝากหนึ่งของโลก การเลือกตั้งในรอบแรกของอาร์เจนตินา พบว่า นายเมาริซิโอ มากริ ประธานาธิบดีอาร์เจนตินาคนปัจจุบัน พ่ายแพ้ให้กับคู่แข่งไปด้วยตัวเลขที่มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในการลงคะแนนเสียงรอบแรก ส่งผลให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับทิศทางการเลือกตั้งครั้งต่อไปในเดือน ต.ค.รวมถึงแผนการปฏิรูปเศรษฐกิจของนายมากริ และความสามารถในการชำระหนี้ของอาร์เจนตินา
· ความตึงเครียดทางการเมืองดังที่กล่าวมา ประกอบกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน กลายเป็นปัจจัยที่สั่นคลานตลาดการเงิน ทำให้บรรดานักลงทุนหันเข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น
ทั้งทองคำ ค่าเงินเยน และพันธบัตร ต่างเป็น Safe-haven หรือสินทรัพย์ปลอดภัย ในช่วงที่เกิดวิกฤติทางการเมืองและเศรษฐกิจ โดยค่าเงินเยนทรงตัวใกล้ระดับแข็งค่ามากที่สุดในรอบ 7 ปี เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ
· ตลาดจะจับตารายงานการประชุมของเฟดครั้งที่ผ่านมา ซึ่งจะเปิดเผยในสัปดาห์หน้า ขณะที่คาดโอกาส 74% ที่เฟดจะปรับลดลงดอกเบี้ยลง 0.25% ในเดือน ก.ย.
· นักวิเคราะห์จาก Phillip Futures ระบุว่า ราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากความตึงเครียดในฮ่องกงและสัญญาณการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกเป็นหลัก โดยตราบใดที่ราคาทองคำยังยืนเหนือระดับ 1,500 เหรียญได้ ก็ยังมีแนวโน้มที่ราคาจะปรับขึ้นต่อ
· กองทุน SPDR เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เพิ่มการถือครองทองคำ 0.9% สู่ระดับ 847.77 ตัน จึงเป็นอีกปัจจัยที่สะท้อนถึงปริมาณความต้องการทองคำที่แข็งแกร่ง
· นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจาก Reuters ประเมินว่า หากราคาทองคำสามารถผ่านแนวต้านแรกที่ 1,524 เหรียญไปได้ จะเป้าหมายถัดไปที่ 1,546 เหรียญ
Gold technical analysis: ราคาทองคำมีแนวโน้มทำระดับสูงสุดใหม่ในรอบ 6 ปี แม้จะอยู่ในภาวะ Overbought
· ราคาทองคำในระยะสั้นมีเป้าหมายแรกเป็นแนวต้านที่ระดับ 1,520 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี โดยราคาทองคำสามารถปรับขึ้นมาได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าสัญญาณ RSI ราย 14 วันจะบ่งชี้ถึงภาวะ Overbought เหนือระดับ 70 จุดก็ตาม
ทั้งนี้ ภาวะ Overbought จากเส้น RSI ไม่ได้หมายความว่าราคาจะเกิดการกลับตัวเป็นขาลงในเร็วๆนี้ แต่เป็นสัญญาณว่าราคาอยู่ในทิศทางขาขึ้นมานานเกินไป โดยจะเห็นได้ว่า ในตลาดฝั่งขาขึ้นครั้งที่ผ่านๆมา มักจะเห็นได้ถึงสัญญาณ RSIอยู่ในภาวะ Overbought เป็นระยะเวลายาวนาน จนกว่าจะแรงเทขายจะเริ่มกลับเข้ามา
· ภาพรวมทองคำรายสัปดาห์ปรับตัวสูงขึ้นมากที่สุดในรอบ 3 ปี เนื่องจากราคามีการซื้อขายใกล้ระดับสูงสุดใหม่ในรอบ 6 ปี แม้ว่าข้อมูลทางเศรษฐกิจและความไม่แน่นอนทางการเมืองยังเป็นปัจจัยที่กดดันตลาด
ทั้งนี้ ผลสำรวจนักเก็งกำไรส่วนใหญ่กว่า 75% และกลุ่มผู้เชี่ยวชาญกว่า 65% เชื่อว่าราคาทองคำสัปดาห์นี้จะปรับตัวสูงขึ้นได้ หลังจากที่ธนาคารกลางจีนกำหนดค่ากลางเงินหยวนมากกว่า 7 หยวน/ดอลลาร์ เป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษ ท่ามกลางสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่ส่งผลให้เกิดสงครามค่าเงิน
ประธานสถาบัน Adrian Day Asset Management ระบุว่า ในเชิงเทคนิค ราคาทองคำน่าจะเข้าสู่ภาวะปรับฐานได้ตั้งนานแล้ว แต่เนื่องจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาดทองคำในช่วงนี้แตกต่างออกไป กล่าวคือ การเข้าซื้อในช่วงเป็นการเข้าซื้อเพื่อป้องกันความเสี่ยง ทำให้นักลงทุนเหล่านี้ไม่สะทกสะท้านจากการแกว่งของราคามากนัก และเมื่อการเปิดสถานะเช่นนี้สะสมมากขึ้นเรื่อยๆ จึงกลายเป็นการสร้างฐานให้กับราคาซึ่งจะช่วยหนุนให้ราคาปรับขึ้นต่อไปในระยะยาวได้
· นักวิเคราะห์จาก Trading View กล่าวว่า จากทีเ่คยวิเคราะห์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบสามเหลี่ยม และหากทองคำไม่สามารถ Break ขึ้นไปได้ก็มีโอกาสเห็นทองคำกลับตัวลงมา แต่ในที่สุดทองคำก็ผ่านไปได้ จึงแนะนำเป้าหมายทำกำไรตามกราฟ โดยหากราคา Break 1,508 เหรียญขึ้นไปได้ เป้าหมายถัดไปของราคาจะอยู่บริเวณ 1,535 เหรียญ
· ราคาซิลเวอร์ปรับสูงขึ้น 1.8% แถว 17.36 เหรียญ ระหว่างวันทำระดับสูงสุดที่ 17.42 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่เดือน ม.ค. ปี 2018
· ราคาแพลทินัมปรับสูงขึ้น 1.3% แถว 863.83 เหรียญ และราคาพลาเดียมปรับสูงขึ้น 0.7% แถว 1,437.98 เหรียญ