· ตลาดหุ้นเอเชียปรับลดลงท่ามกลางความกังวลว่าสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนอาจยืดเยื้อออกไป ประกอบกับเหตุการณ์ประท้วงในฮ่องกงและการร่วงลงของหุ้นและค่าเงินเปโซของอาร์เจนติน่าที่กดดันความเชื่อมั่นของนักลงทุน ส่งผลให้ตลาดหันเข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างพันธบัตร ทองคำ และค่าเงินเยนมากขึ้นแทน
โดยดัชนี MSCI ที่ไม่รวมตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับลดลง 1% ขณะที่ตลาดหุ้นจีนปรับลดลง 1% ส่วนตลาดหุ้นฮ่องกงปรับลดลง 1.7% ทำระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน
· ดัชนีหุ้นตัวหลักของอาร์เจนตินาปรับร่วง 35% ขณะที่ค่าเงินเปโซอ่อนค่า 25% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ท่ามกลางผลการเลือกตั้งที่ออกมาเป็นที่น่าประหลาดใจของตลาด
โดยคะแนนเสียงของนายเมาริซิโอ มากริ ประธานาธิบดีอาร์เจนตินาคนปัจจุบัน พ่ายแพ้ให้กับคู่แข่งไปด้วยตัวเลขที่มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในการลงคะแนนเสียงรอบแรก ส่งผลให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับทิศทางการเลือกตั้งครั้งต่อไปในเดือน ต.ค.รวมถึงแผนการปฏิรูปเศรษฐกิจของนายมากริ และความสามารถในการชำระหนี้ของอาร์เจนตินา
· ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลงกว่า 1% เป็นครั้งแรกของวันซื้อขายหลังจากที่หยุดในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา ท่ามกลางผลกระทบจากประเด็นสงครามทางการค้าครั้งใหม่ระหว่างสหรัฐฯและจีน รวมทั้งเหตุการประท้วงในเกาะฮ่องกงและการแข็งค่าของค่าเงินเยนกดดันหุ้นวัฎจักรและหุ้นกลุ่มส่งออก
โดยดัชนี Nikkei ลดลง 1.1% ที่ระดับ 20,455.44 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบสัปดาห์ ขณะที่ดัชนี Topix ลดลง 1.2% ที่ะรดับ 1,486.57 จุด
· ตลาดหุ้นจีนปิดปรับตัวลดลงเนื่องจากหุ้นที่เกี่ยวข้องกับทองคำพุ่งสูงขึ้นแต่ไม่ได้หนุนความเชื่อมั่นของตลาด โดยดัชนี Shanghai Composite ลดลง 0.6% ที่ระดับ 2,797.26 จุด
· ตลาดหุ้นยุโรปเปิดในแดนลบท่ามกลางนักลงทุนที่จับตาความเคลื่อนไหวของเหตุการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมืองของอิตาลี ฮ่องกง และอาร์เจนตินา โดยดัชนี Stoxx 600 เปิด -0.3% นำโดยหุ้นกลุ่มธนาคารที่ร่วงไปกว่า 0.7% ขณะที่หุ้นส่วนใหญ่ต่างเคลื่อนไหวในแดนลบ
วุฒิสภาอิตาลีมีกำหนดการจะประชุมในคืนนี้ เพื่อกำหนดวันที่สำหรับการลงมติไม่ไว้วางใจรัฐบาลชุดปัจจุบัน หลังผู้นำพรรคร่วมรัฐบาลประกาศเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า พรรคร่วมรัฐบาลไม่สามารถทำงานร่วมกันไปอีกต่อไป
สำนักข่าวอินโฟเควสท์
- นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ในวันนี้จะมีการลงนามถึงแนวทางการปฏิบัติใหม่ในการปล่อยสินเชื่อที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งเป็นแนวปฏิบัติร่วมกันของสมาคมธนาคารไทย และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ที่จะร่วมกันกำหนดนโยบายของแต่ละสถาบันการเงิน เพื่อนำไปสู่การปรับเปลี่ยนวิธีการทำงาน การเปิดเผยข้อมูล การตรวจสอบต่างๆ เพื่อให้การทำงานของสถาบันการเงินมีบทบาทที่สอดคล้องกับความยั่งยืน และความรับผิดชอบต่อสังคมเพิ่มมากขึ้น
- นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ยังให้ความสำคัญกับเสถียรภาพระบบการเงิน แม้ว่าบางมาตรการที่ ธปท.เคยประกาศออกไปได้ส่งผลในทิศทางที่ต้องการ แต่ในภาวะที่ดอกเบี้ยจะต่ำอย่างต่อเนื่องนั้น ยังจำเป็นที่ต้องดูแลเสถียรภาพของะรบบการเงินเพื่อไม่ให้มีการประเมินความเสี่ยงต่ำกว่าที่ควรและสร้างความเปราะบางให้ระบบการเงินในอนาคต
- พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมวงกลาโหม กล่าวว่า ไม่ได้มีการนัดหารือกับ 10 พรรคเล็กในวันพฤหัสบดีนี้ ตามที่มีกระแสข่าว ส่วนจะมีบุคคลในพรรคร่วมรัฐบาลนัดหมายพูดคุยหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี เชื่อว่าเรื่องนี้คงมีคนพูดคุยอยู่แล้ว
นอกจากนั้น นายกรัฐมนตรี ยังปฎิเสธตอบคำถามว่าจะไปชี้แจงกระทู้ถามสดเรื่องการกล่าวคำถวายสัตย์ปฎิญาณฯ ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรหรือไม่
- ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดซื้อขาย DW อ้างอิงดัชนีต่างประเทศครั้งแรก "DW อ้างอิงดัชนีฮั่งเส็ง" ของตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ออกโดย บล. แมคควอรี ตอบโจทย์ผู้ลงทุนที่สนใจซื้อขาย DW ที่อ้างอิงสินทรัพย์ในต่างประเทศ เริ่มซื้อขาย 8 รุ่นแรก 14 ส.ค.นี้
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลท. เปิดเผยว่า ตลท.ได้พัฒนาใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (Derivative Warrants: DW) ให้มีสินทรัพย์อ้างอิงประเภทใหม่เป็น DW อ้างอิงดัชนีต่างประเทศ โดยมี บล.แมคควอรี (ประเทศไทย) เป็นผู้ออก DW อ้างอิงดัชนีฮั่งเส็ง (Hang Seng Index) รายแรก และออกครั้งแรกจำนวน 8 รุ่น แบ่งเป็น Call DW 4 รุ่น และ Put DW 4 รุ่น กำหนดซื้อขายในวันที่ 14 ส.ค.62 เป็นต้นไป