MTS Help Center

· ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดบวกหลังรายงานข่าวว่าสหรัฐฯจะเลื่อนการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนบางรายการออกไป รวมถึงลบชื่อสินค้าบางกลุ่มออกจากรายชื่อเตรียมขึ้นภาษี ทำให้ตลาดกลับมามีความหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถกลับมาหาข้อตกลงกันได้อีกครั้ง

โดยดัชนีดาวโจนส์ปิด +372.54 จุด หรือ 1.44% ที่ระดับ 26,279.91 จุด ระหว่างวันปรับขึ้นไปมากถึง 529 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิด +42.57 จุด หรือ 1.48% ที่ระดับ 2,926.32 จุด ส่วนดัชนี Nasdaq ปิด +1.95% ที่ระดับ 8,016.36 จุด นำโดยหุ้น Apple ที่ปรับขึ้นมากกว่า 4%

· นักวิเคราะห์จาก J.P. Morgan เตือน แม้ว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯมีเคลื่อนไหวในแดนบวกจากความคืบหน้าล่าสุดของสงครามการค้า แต่ต้องไม่ลืมว่าถึงแม้การขึ้นภาษีในวันที่ 1 ก.ย. จะถูกเลื่อนออกไป ดัชนี S&P 500 ก็ยังมีแนวโน้มที่จะไม่สามารถขึ้นไปเหนือระดับ 3,000 จุดได้ และยังต้องจับตาประเด็นสงครามการค้าต่อไป ซึ่งน่าจะมุ่งเน้นความสำคัญไปที่ประเด็น Huawei และการเกษตรมากขึ้นแทน

· ตลาดหุ้นยุโรปฟิ้นตัวกลับมาปิดในแดนบวก หลังรายงานข่าวที่ว่าสหรัฐฯจะเลื่อนการขึ้นภาษีจีนบางรายการออกไป โดยดัชนี Stoxx 600 ปิด +0.6% นำโดยหุ้นกลุ่มยานยนต์และทรัพยากรพื้นฐาน หลังจากที่เปิดตลาดในแดนลบจากความตึงเครียดทางเมืองอาร์เจนตินาและฮ่องกง

· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากสหรัฐฯชะลอการประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนออกไปบางรายการ โดยเช้านี้ ดัชนี Nikkei เพิ่มขึ้น 1.14% ด้านดัชนี Topix เพิ่มขึ้น 0.96% รวมทั้งดัชนี Kospi เกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 1.37%

· นักวิเคราะห์จาก Sumitomo Mitsui DS Asset Management ประเมินว่า แม้ตลาดจะตอบรับกับข่าวการเลื่อนขึ้นภาษีไปในเชิงบวก แต่ตลาดยังคงมีท่าทีระมัดระวังอยู่ เนื่องจากภาษีจะยังคงถูกปรับขึ้นในเดือน ธ.ค.

ส่วนประเด็นความตึงเครียดในฮ่องกง แม้จะไม่ใช่ประเด็นหลักที่ตลาดให้ความสนใจ แต่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไล่เลี่ยกับเหตุการณ์ในอาร์เจนติน่า เมื่อรวมตัวกันจึงส่งผลกระทบที่ค่อนข้างรุนแรงต่อความเชื่อมั่นของตลาด

· อ้างอิงจากสำนักข่าวอินโฟเควสท์

- นักบริหารการเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ระหว่าง 30.75 - 30.85 บาท/ดอลลาร์ ท่ามกลางกระแสเงินทุนไหลออกเยอะจากการที่นักลงทุนเทขายหุ้นไทย ขณะที่ปัจจัยกดดันต่างๆ ยังเหมือนเดิมโดยเฉพาะความตึงเครียดเกี่ยวกับปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ค่าเงินหยวน เหตุการณ์ความไม่สงบในฮ่องกง รวมถึงข้อมูลเงินเฟ้อและยอดค้าปลีกสหรัฐฯ เพื่อประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจโลกและท่าทีของธนาคารกลางหลักต่อไป

- ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ยังให้ความสำคัญกับเสถียรภาพระบบการเงิน แม้ว่าบางมาตรการที่ ธปท.เคยประกาศออกไปได้ส่งผลในทิศทางที่ต้องการ แต่ในภาวะที่ดอกเบี้ยจะต่ำอย่างต่อเนื่องนั้น ยังจำเป็นที่ต้องดูแลเสถียรภาพของระบบการเงินเพื่อไม่ให้มีการประเมินความเสี่ยงต่ำกว่าที่ควรและสร้างความเปราะบางให้ระบบการเงินในอนาคต

- รมว.อุตสาหกรรมไทย เปิดเผยภายหลังการเข้าหารือกับนายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ถึงสถานการณ์ค่าเงินบาทว่า ได้รับทราบว่า ธปท.มีมาตรการต่างๆ ในการช่วยดูแลค่าเงินบาทเป็นอย่างดีอยู่แล้ว แต่สิ่งที่สำคัญคือต้องอยู่ภายในเงื่อนไขที่ไม่ถูกประเทศอื่นๆ กล่าวหาว่ามีการแทรกแซงค่าเงินเพื่อให้เกิดความได้เปรียบทางการค้า

- โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีไทย เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้กำหนดการประชุม ครม.เศรษฐกิจนัดแรกในวันศุกร์ที่ 16 ส.ค.นี้ โดยกระทรวงการคลังกำลังพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และจะนำเสนอให้ที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจพิจารณา

- มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทยในเดือนก.ค. ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 มาอยู่ที่ระดับ 46.7 จากระดับ 47.1 ในเดือนมิ.ย. โดยเป็นดัชนีที่ต่ำสุดในรอบ 18 เดือน และมีดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทยในอนาคตปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 48.2 จากระดับ 48.7 ในเดือนมิ.ย.