· ราคาทองคำปรับตัวลดลงอีก 0.1% บริเวณ 1,499.89 เหรียญ หลังสหรัฐฯประกาศเลื่อนการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนออกไป ส่งผลให้ตลาดคลายกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า แต่ความกังวลที่มีต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจและความตึงเครียดทางการเมืองยังเป็นปัจจัยหนุนไม่ให้ราคาทองคำร่วงลงไปมากกว่านี้
ด้านราคาสัญญาณทองคำปรับลดลง 0.2% แถว 1,510.80 เหรียญ
· นักวิเคราะห์จาก National Australia Bank ระบุว่า ตลาดคลายความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า และกลับมาคาดหวังกันว่าทั้งสองประเทศจะสามารถหาข้อตกลงการค้า จึงหนุนตลาดหุ้นและกดดันราคาทองคำ
อย่างไรก็ตาม ความตึงเครียดทางการค้ายังไม่ได้ถูกคลี่คลายลง ประกอบกับเหตุการณ์ความไม่สงบในฮ่องกง การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และแนวโน้มที่เฟดอาจปรับลดดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งภายในปีนี้ ล้วนแต่เป็นปัจจัยที่ยังหนุนราคาทองคำในระยะยาวอยู่
· นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศเลื่อนการขึ้นภาษีจีนอีก 10% สำหรับสินค้ากลุ่มที่ยังไม่ถูกขึ้นภาษีในวันที่ 1 ก.ย. ออกไป ซึ่งได้แก่สินค้าในกลุ่มโทรศัพท์มือถือ แล็ปท็อบ และสินค้าอุปโภคบริโภค เนื่องจากกังวลว่าการขึ้นภาษีจะส่งผลกระทบต่อการซื้อขายในช่วงเทศกาลของสหรัฐฯ
· ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้นตามตลาดหุ้นส่วนใหญ่ทั่วโลก ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าที่ผ่อนคลายลงไป
· นักวิเคราะห์จาก VM Markets ประเมินว่า ตลาดการเงินได้รอคอยข่าวในเชิงบวกอย่างใจจดใจจ่อ และก็สมหวัง เมื่อจีนตกลงที่จะกลับมาเจรจาผ่านทางโทรศัพท์กับสหรัฐฯในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า ขณะที่สหรัฐฯก็เลื่อนการขึ้นขึ้นภาษีจีนออกไป ส่งผลให้เกิดแรงเทขายในสินทรัพย์ปลอดภัยเข้ามาอย่างหนัก
· อัตราการผลิตภาคอุตสาหกรรมของประเทศจีนประกาศออกมาขยายตัวในเดือน มิ.ย. ด้วยอัตราที่ช้าที่สุดรอบกว่า 17 ปี จึงเป็นสัญญาณล่าสุดว่าปริมาณอุปสงค์ในประเทศจีนกำลังอ่อนแอลงจากสงครามการค้ากับสหรัฐฯ
· ตลาดจะจับตาถ้อยแถลงของเฟดในการประชุมของบรรดาธนาคารกลาง ณ เมือง Jackson Hole สัปดาห์หน้า เพื่อหาสัญญาณการปรับลดดอกเบี้ยของเฟด ขณะที่ตลาดมองโอกาส 86% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยลงอีก 0.25% ในการประชุมเดือนก.ย.
· ทางด้านดัชนีดอลลาร์ค่อนข้างทรงตัว หลังจากที่เมื่อคืนนี้ปรับแข็งค่าขึ้นได้ 0.4%
· กองทุน SPDR ลดการถือครองทองคำลง 1.3% สู่ระดับ 836.66 ตัน เมื่อวานนี้
· นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจาก Reuters ประเมินว่า ราคาทองคำจะย่อตัวลงทดสอบแนวรับที่ 1,480 เหรียญ เนื่องจากราคาไม่สามารถผ่านแนวต้านที่ 1,524 เหรียญไปได้
ทองคำทรงตัวแถว 1,500 เหรียญ สัญญาณ Spinning Top ชี้ ทิศทางขาขึ้นเริ่มอ่อนกำลัง
· ราคาทองคำเคลื่อนไหวค่อนข้างทรงตัวแถวระดับ 1,500 เหรียญ และมีแนซโน้มที่จะย่อตัวลงมาแถวเส้นค่าเฉลี่ยรายวัน 10 วัน หรือที่ระดับ 1,484 เหรียญ เนื่องจากเกิดสัญญาณ Spinning Top ในกราฟรายวัน บ่งชี้ถึงทิศทางขาขึ้นที่เริ่มอ่อนแรง
นอกจากนี้ เส้น RSI ยังคงอยู่ในแดน Overbought ขณะที่เส้นค่าเฉลี่ยเริ่มมีการทำจุด Lower high จึงเป็นอีกสัญญาณที่บ่งชี้ถึงทิศทางขาขึ้นที่อ่อนแรง
ดังนั้น เมื่อวิเคราะห์จากปัจจัยทางเทคนิค ราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะปรับฐานลงมาที่บริเวณ 1,481 เหรียญ ในทางกลับกันหากราคาปรับขึ้นเหนือ 1,535 เหรียญ ทิศทางขาขึ้นก็จะกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง
· ประธานจาก Blue Line Futures มองว่า ภาวะผกผันของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เกิดขึ้นในเวลานี้ไม่ใช่ปัจจัยที่ผลักดันให้ราคาทองคำสูงขึ้น เพียงแต่มาช่วยย้ำสภาวะบวกให้แก่ราคาทองคำ เนื่องจากการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ผกผันจะผลักดันให้ทองขึ้นได้อีก ก็จะมาจากเกิดความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยเป็นหลักนั่นเอง
อย่างไรก็ดี ราคาทองคำก็ยังคงเผชิญกับแนวต้านแข็งแกร่งในทิศทางขาขึ้น ขณะที่แนวรับแรกของทองคำจะอยู่บริเวณ 1,480 เหรียญ
· ราคาซิลเวอร์ปรับลดลง 0.1% แถว 16.95 เหรียญ หลังทำระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 ปีครึ่งในช่วงก่อนหน้า
· ราคาแพลทินัมปรับลดลง 0.5% แถว 847.92 เหรียญ และราคาพลาเดียมปรับลดลง 0.8% แถว 1,444.16 เหรียญ