MTS Help Center

· ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นท่ามกลางความผกผันของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯที่ส่งสัญญาณความเสี่ยงที่เศรษฐกิจชะลอตัว ขณะที่ความตึงเครียดของสงครามการค้าดูจะยิ่งกดดันต่อภาวะการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ และทำให้ความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มสูงขึ้น

ราคาทองคำปรับตัวขึ้นกว่า 0.3% ที่ระดับ 1,520.19 เหรียญ ขณะที่สัญญาทองคำส่งมอบเดือนธ.ค. ปรับตัวลง 0.1% ที่ระดับ 1,526.8 เหรียญ

· อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯเข้าสู่ภาวะผกผันกันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2007 ซึ่งถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯกำลังจะเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย ประกอบกับข้อมูลเศรษฐกิจจากทางจีนและเยอรมนี บ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว อันเป็นผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน Brexit และความตึงเครียดทางการเมืองต่างๆ

· เมื่อวานนี้ ทางการสหรัฐฯ กล่าวว่า จีนยังไม่มีการทำข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯเพิ่มเติม หลังจากที่ นายทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศเลื่อนการขึ้นภาษีอีก 10% มูลค่ากว่า 1.50 แสนล้านเหรียญ ขณะที่สัญญาณความพยายามที่จะบรรลุข้อตกลงทางการค้าไม่เกิดขึ้น

ดัชนี MSCI ที่เป็นมาตรวัดดัชนีราคาทั่วโลก ปรับตัวลง 2.1% แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 4 มิ.ย.

· กลุ่มนักลงทุนให้ความสนใจไปยังถ้อยแถลงประจำปีของเฟดในการประชุมธนาคารกลางสัปดาห์หน้า โดยเทรดเดอร์มองโอกาส 74% ที่จะเห็นเฟดลดดอกเบี้ยต่อในเดือนก.ย.นี้

· กองทุนทองคำ SPDR เพิ่มการถือครอง 0.91% ที่ระดับ 844.29 ตันวานนี็

· รายงานโดย Reuters จากแหล่งข่าวที่ไม่ประสงค์ออกชื่อ ระบุว่า จีนได้จำกัดการนำเข้าทองคำนับตั้งแต่เดือน พ.ค. ลงอย่างมาก ซึ่งอาจเป็นการดำเนินการที่มีจุดประสงค์เพื่อจำกัดการไหลออกของเงินดอลลาร์ และหนุนค่าเงินหยวนในภาวะที่การเติบโตทางเศรษฐกิจกำลังชะลอตัว

โดยรายงานระบุว่า จีนได้ลดการนำเข้าทองคำลง 300 – 500 ตันเมื่อเทียบกับปีก่อน รวมเป็นมูลค่าประมาณ 1.5 – 2.5 หมื่นล้านเหรียญ ตามราคาทองคำในปัจุบัน

การจำกัดการนำเข้าทองคำเกิดขึ้นท่ามกลางภาวะสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่กดดันการเติบโตของเศรษฐกิจจีนลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 ทศวรรษและกดดันเงินหยวนอ่อนค่าที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2008

· Gold technical analysis: ทองกลับมาเป็นขาขึ้น จ่อทำระดับสูงสุดใหม่อีกครั้ง